เชียงใหม่วิกฤตอีก Air4Thai รายงานผลตรวจพบสารมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐาน 5 สถานี ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองหลักมลพิษสูงสุดในโลก

เชียงใหม่วิกฤตอีก Air4Thai รายงานผลตรวจพบสารมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐาน 5 สถานี ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองหลักมลพิษสูงสุดในโลก

          เชียงใหม่วิกฤตอีก Air4Thai รายงานผลตรวจพบสารมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐาน 5 สถานียกเว้นต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่มที่จ่อจะวิกฤตเช่นเดียวกัน ขณะที่ปธ.สภาลมหายใจเชียงใหม่เผยข้อสรุปเวทีที่อ.ฮอดทุกฝ่ายเห็นพ้องการตั้งรับไม่ได้ผลต้องเน้นการป้องกันเชิงรุก การบริหารจัดการเชื้อเพลิงต้องให้จบภายในวันห้ามไฟไหม้ลามข้ามคืน สุดท้ายแนะให้เร่งสรุปบทเรียนและทำแผนป้องกันปีต่อไปทันที

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กpm2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่กลับมาวิกฤตอีกครั้ง หลังจากที่มีฝนตกและพายุลูกเห็บทำให้อากาศกลับมาสดใสได้เพียง 2 วัน ทั้งนี้ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ จังหวัดเชียงใหม่ได้รายงานว่าไม่พบจุดความร้อนต่อเนื่องเพียง 2 วัน และเพิ่งจะมีรายงานพบจุดความร้อนหรือ Hot Spot เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาที่อ.แม่แตงเพียง 3 จุดและตอนบ่ายอีก  2 จุด ส่วนวันนี้พบจุดความร้อน 3 จุดที่อ.ฮอด 2 จุดและอ.อมก๋อย 1 จุด

ขณะเดียวกันสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน)รายงานสถานการณ์วันที่ 21 ก.พ.66 ว่าพบจุด Hotspot เกิดขึ้นจำนวน 29 จุด (เชียงราย 0 จุด เชียงใหม่ 6 จุด แม่ฮ่องสอน 2 จุด และลำพูน 21 จุด)และPM2.5 มีค่าระหว่าง 26-73 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “ดี ถึง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” (ค่ามาตรฐานเกิน 50 มคก./ลบ.ม.)

ส่วนทางด้านศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฯจ.เชียงใหม่ ยังไม่มีข้อสั่งการใดๆ โดยค่าตรวจวัดคุณภาพอากาศ Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษ เมื่อเวลา 11.00 น.พบว่าสารมลพิษในอากาศที่ตรวจพบเกินค่ามาตรฐานสูงสุดที่ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ค่าAQI 231  ไมโครกรัมต่อลบ.ม. ค่าpm2.5 เท่ากับ 121 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.และpm10 (ค่ามาตรฐาน 120 )เท่ากับ 158 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.

สำหรับจังหวัดเชียงใหม่พบว่าค่ามลพิษในอากาศสูงเกินค่ามาตรฐานทุกสถานี โดยสถานีต.ช้างเผือก AQI 124 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.pm2.5 เท่ากับ 60 ไมโครกรัมต่อลบ.ม. สถานีตรวจวัดต.ศรีภูมิ AQI 144 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.pm2.5 68 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.สถานีต.หางดง อ.ฮอดAQI 162 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.pm2.5 เท่ากับ 75 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.สถานีต.เมืองนะ อ.เชียงดาว AQI 144 pm2.5 เท่ากับ 68 สถานีต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ AQI 116 pm2.5 เท่ากับ 57 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.ยกเว้นสถานีเดียวคือที่ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม AQI 96 pm2.5 49 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.   ขณะที่ IQAIR เมื่อเวลา 11.00 น.จังหวัดเชียงใหม่เป็นอันดับ 9 ของเมืองหลักทั่วโลกที่มีมลพิษสูง

ทางด้านนายชัชวาล ทองดีเลิศ ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ แจ้งในกลุ่มไลน์ฝุ่นควันภาคเหนือถึงข้อสรุปการจัดเวทีที่ อ.ฮอดว่า 1.การแก้เชิงรุกต้องเน้นที่การป้องกัน 80% หากเน้นเชิงรับเอาไม่อยู่ สิ้นเปลืองมาก 2.การเตรียมความพร้อมเน้นการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการบริหารจัดหารเชิงพื้นที่ แผนที่มีคุณภาพ ต้องรักษาพื้นที่สำคัญตรงไหน พื้นที่เท่าไหร่มีแผนป้องกันอย่างไร แนวกันไฟ ลาดตระเวน ลดเชื้อเพลิง ตรงไหน พื้นที่เท่าไหร่ที่จำเป็นต้องบริหารจัดการเชื้อเพลิง จัดการให้จบในช่วงบ่าย มีการป้องกันควบคุมไม่ให้ลุกลามอย่างไร 3.การจัดกำลังคนและการสนับสนุนงบประมาณที่เพียงพอ เจ้าหน้าที่มีอำนาจตามกฎหมายแต่มีจำนวนจำกัด แต่ชาวบ้านมีจำนวนมาก แต่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายจะปลดล๊อค เปิดการมีส่วนร่วมให้เต็มที่อย่างไร 3.ต้องเริ่มจากการจัดเวทีสรุปบทเรียนทันทีหลังหมดฝุ่นควัน สรุปสิ่งที่ทำได้ดีและปัญหาข้อจำกัด รวมทั้งวางแผนปีต่อไปเลย (มิ.ย.-ก.ค.)และ4.เตรียมมีนโยบายและการสนับสนุนให้พร้อม.

You may also like

อบจ.เชียงใหม่​ ร่วมภาคีเครือข่าย เฉลิมพระเกียรติ​ในหลวง ร.10 ครบ 6 รอบ “ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ที่หนองเขียว”

จำนวนผู้