สื่อมวลชนเชียงใหม่ ร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลเนื่องในวัน “นักข่าว 5 มี.ค.” เจ้าอาวาสวัดพันอ้นเจริญสติแนะสื่อมวลชนนำเสนอข้อเท็จจริง ระบุพุทธศาสนาถูกบ่อนทำลายด้วยระเบียบพรบ.สงฆ์ ส่งผลให้คนเข้าสู่ร่มกาสาวพัตยากขึ้น เผยตั้งแต่เดือนเม.ย.ให้ระวังแผ่นดินไหว ภัยแล้งคุกคาม วาตภัยหนักทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ชี้เหตุวุ่นวายกลับมาสุดท้ายทหารออกมาปฏิวัติ
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2562 ที่วัดพันอ้น อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายอินสม ปัญญาโสภา นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคเหนือแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสันทัด ศักดิ์สูง บก.เชียงใหม่นิวส์ออนไลน์ นางอุบลนัดดา (ลิ้มจรูญ) สุภาวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ นสพ.ไทยนิวส์ นายอำนาจ นางผ่องพรรณ จงยศยิ่ง,นายณรงค์ นิยมไทย,นายประเสริฐ สาระพันธ์,นายพิเศษ ขันติพงค์, นายประวิทย์ พุทธจรรยาวงศ์,นายสาธิต คล่องอักขระ,นายชัยพินธ์ ขัติยะ, และ น.ส.ธนวันต์ ชุมแสง ผอ.สวท.เชียงใหม่ พร้อมพี่น้องสื่อมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกันทำบุญให้กับสื่อมวลชนเชียงใหม่ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยท่านพระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี พ.อ.อโณทัย ชังมงคล รอง ผบ.มทบ.33 ,ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้แทนจากสวนสัตว์เชียงใหม่มาร่วมพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลในครั้งนี้ด้วย
หลังเสร็จพิธี พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ในฐานะประธานศูนย์เผยแผ่ธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวสนทนาธรรมและฝากข้อคิด คำแนะนำกับสื่อมวลชนว่า เนื่องในวันนักข่าว 5 มีนาคมของทุกปีสิ่งที่อยากฝากให้สื่อมวลชนได้ตระหนักและนำเสนอข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับรู้ว่าขณะนี้พุทธศาสนากำลังถูกบ่อนทำลายจากพ.ร.บ.สงฆ์ที่ออกมาบีบบังคับให้พระสงฆ์ สามเณรอยู่ยากขึ้น โดยยกตัวอย่างว่า ในอดีตหากใครมีจิตศรัทธาในพุทธศาสนาจะบวช 9 วัน 1 หรือ 1 ปีก็แล้วแต่เจตนาศรัทธา แต่กฎระเบียบใหม่ที่ออกมากำหนดว่าผู้ที่ต้องการจะบวชจะต้องบวชไม่ต่ำกว่า 45 วัน และหากไม่เป็นไปตามระเบียบพระอุปัชฌาชย์รูปใดบวชให้ก็จะมีความผิดถูกถอดถอนหรือจับสึก
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับการบวชอีกเช่น หากประสงค์จะบวชจำวัดที่วัดพันอ้น จะต้องมาเขียนแบบฟอร์มและต้องมีผู้รับรอง โดยเจ้าอาวาสจะต้องส่งแบบฟอร์มนั้นให้สำนักพุทธศาสนาจังหวัดและสำนักพุทธฯส่งไปให้ตำรวจภูธรจังหวัดตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาทั้งหมดนานแค่ไหน และหากตรวจสอบเสร็จก็จะส่งกลับไปสำนักพุทธฯและสำนักพุทธตอบกลับวัดก่อนถึงจะบวชได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าระเบียบที่ออกมาเป็นการกีดกันไม่ให้คนเข้าสู่บวรพระพุทธศาสนา
“ปัจจุบันพระสงฆ์ในเชียงใหม่มีประมาณ 4 พันรูป สามเณรประมาณ 4 พันรวมกันไม่ถึง 1 หมื่นรูป และพรบ.นี้ยังให้วัดรายงานบัญชีรายรับ รายจ่ายทั้งๆ ที่วัดไม่ได้ใช้เงินของทางราชการ มีศานาสถาน ศาสนวัตถุอะไรบ้าง อายุ ตีมูลค่าเท่าไหร่ให้ระบุด้วยซึ่งก็เป็นดาบ 2 คมอีก เพราะบางวัดอายุเก่าแก่นับร้อยปี ยกตัวอย่างเช่นมีพระพุทธรูปเก่าแก่ประมาณมูลค่าไม่ได้ ถ้าหากข้อมูลรั่วไหลก็จะถูกมิจฉาชีพเข้ามาลักขโมยได้อีก และที่ผ่านมามีการจับพระผู้ใหญ่สึกแต่จนบัดนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหา เรื่องยังไม่ถึงอัยการ ไม่ได้ส่งฟ้องศาลแต่จับสึกและขังมาเป็นปีแล้ว พระที่วิจารณ์เรื่องศาสนาอิสลามตอนนี้ก็หายสาบสูญ หลายรูปที่เคยเคลื่อนไหวก็ถูกเชิญไปปรับทัศนคติ”เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ประธานศูนย์เผยแผ่ธรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวและว่า
สื่อมวลชนเวลาเสนอข่าว ขอให้เสนอข่าวที่เป็นจริง ตอนนี้พุทธศาสนากำลังจะล่มสลาย ถ้าหากตราบใดที่ผู้นำประเทศไม่นับถือพุทธศาสนา และประเทศจะกลายเป็นเมืองมุสลิมเหมือนกับหลายๆ ประเทศทั้งอัฟกานิสถาน ปากีสถานและเวียดนาม ตอนนี้พุทธศาสนาในประเทศไทยอยู่ในภาวะอันตราย พระสงฆ์ สามเณรอยู่ยาก ทางสนช.ก็มีการพิจารณาออกกฎหมายทุกวันที่กำลังพิจารณาตอนนี้จะให้เจ้าอาวาสอยู่ในตำแหน่งได้ 5 ปีและต้องมีการสับเปลี่ยนโยกย้าย รวมทั้งตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ทั้งๆ ที่พระภิกษุ สงฆ์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ สื่อมวลชนต้องช่วยกันจะทำอย่างไรให้พุทธศาสนามั่นคง ต้องช่วยกันปกป้องพุทธศาสนา
พระครูอมรธรรมทัต กล่าวอีกว่า ตอนนี้มีการออกพรบ.ธนาคารอิสลาม แก้ไขเพิ่มเติมปี 2560 รัฐบาลต้องอุ้มหนีเสียให้กับธนาคารอิสลามถึง 6 หมื่นล้านบาททั้งๆ ที่เอาเงินภาษีของชาวพุทธไปด้วยและยังมีพ.ร.บ.ฮัจน์ซึ่งเดิมทุกศาสนาจะขึ้นกับสำนักพุทธแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ย้ายไปสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีรมว.มหาดไทยเป็นประธาน ปลัดก.มหาดไทย ก.ต่างประเทศเป็นรองประธานมู้แทนจากทุกกระทรวงเป็นกรรมการ มีการตั้งสำนักงานเสริมกิจการฮัจน์ที่กรมการปกครองและใช้ห้องประชุมที่กรมการปกครอง กระทรวงนี้คุมผู้ว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ
“ความแตกต่างชัดเจนมาก ต่อไปจะตั้งวัดระเบียบใหม่ ต้องมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 6 ไร่ มีราษฎรในพื้นที่จำนวนมาก ขณะที่หากจะตั้งมัสยิดแค่ครอบครัวเดียวก็ตั้งได้ขอแค่มีเงิน แล้วกระทรวงมหาดไทยยังออกระเบียบห้ามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งงบประมาณที่สนับสนุนวัดอีก”เจ้าอาวาสวัดพันอ้น กล่าวและเจริญสติว่า
สิ่งที่อยากให้สื่อมวลชนได้ประชาสัมพันธ์และเตือนประชาชนคือ ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไปให้ระมัดระวังวาตภัย จะเกิดวาตภัยรุนแรง เกิดความแห้งแล้งอย่างหนัก ภัยแล้งคุกคาม เกษตรกรจะเดือดร้อน จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง แผ่นดินยุบตัว ทรุดตัวสร้างความเสียหายไปทั่วทุกมุมโลก ทั้งฝรั่งเศส กรีซ ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง จีน พม่าและไทยก็มีผลกระทบไม่น้อยเหมือนกัน จังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงเช่น กาญจนบุรี เพชรบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ กำแพงเพชร แพร่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกันเช่นที่อ.เมือง สะเมิง สันกำแพง สารภี ไชยปราการ ฝาง แม่อายและแม่แจ่ม เนื่องจากดาวจันทร์และดาวพฤหัสบดีตกที่ธาตุดิน ลมพัดอย่างรุนแรง ต้นไม้หักโค่น บ้านเรือนจะได้รับความเสียหาย ดินโคลนถล่ม ทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก แผ่นดินจะร้อนระอุลุกเป็นไฟอีกคำรบหนึ่ง ความขัดแย้งของนักการเมืองรวมทั้งประชาชนที่เห็นต่างจะลุกขึ้นมาประท้วงก่อการจราจร จะมีเหตุการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย และสุดท้ายจะเกิดการปฏิวัติ ทหารซึ่งเป็นดาวอังคารก็จะออกมา
“การเงินจะขาดสภาพคล่อง คนไม่กล้าลงทุนเพราะลงทุนไปแล้วมีความเสี่ยงต่อการขาดทุน ค้าขายฝืดเคือง เศรษฐกิจชะลอตัว ยอดการขายจะลดลงเนื่องจากกำลังซื้อลดลง ผู้ประกอบการบางรายต้องปิดตัวลงเพราะทนขาดทุนไม่ไหว สถานการณ์โลกเกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศผู้นำของโลกเช่นสหรัฐฯกับจีนต่างแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำเบอร์ 1 ของโลก เศรษฐกิจตกต่ำประชาชนจะเดือดร้อน”เจ้าอาวาสวัดพันอ้น กล่าวและว่า
ผู้คนจะเห็นแก่ตัว คิดถึงประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้องมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ประเภทเอาดีใส่ตัว โยนความชั่วใส่ผู้อื่นผู้คนจะถูกกิเลสตัณหา ความทะยานยากเข้าครอบงำ ทำให้คนผิดศีลธรรมก่อคดีสะเทือนขวัญเพิ่มมากขึ้น คนเกิดวันจันทร์ วันพฤหัสบดีและวันอังคารต้องระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ จิตใจฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ เจ็บป่วย มีอุบัติเหตุ หน้าที่การงานติดขัดมีปัญหาและอุปสรรค.