ผู้บังคับการตำรวจลำปาง นำตัวรปภ.โรงโม่หินในอ.แม่ทะชี้จุดเกิดเหตุหลังเจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟระดมกำลังดับไฟ พบสูญพื้นที่ป่าเสียหายกว่า 109 ไร่ห่างจากเพิงพักรปภ.เพียง 10 เมตร พบอุปกรณ์แท่งยากันยุงพันกล่องไม้ขีดไฟ เจ้าตัวรับทำอุปกรณ์จริงแต่จะนำไปเผาไร่แต่ปฏิเสธ.ไม่ใช่ผู้จุดไฟเผาป่าอ้างไม่รู้ ไม่เห็น
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 63 พลตำรวจตรี อนุชา อ่วมเจริญ ผู้บังคับการภูธรจังหวัดลำปาง และ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.14 (แม่ทะ) นำโดย นายสินธพ เรือนมั่น เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน นำตัวนายอุดมสินธิ์ อายุ 68 ปี ชาวบ้าน อ แม่ทะ และยัง เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ บริษัท โรงโม่หินแห่งหนึ่งในพื้นที่ซึ่งอยู่ในป่าลึกบนถนนสายลำปาง-แพร่ โดยได้นำของกลาง เป็นอาวุธปืนแก๊ปยาว 1 กระบอก และ ชนวนที่ทำจากขวดยากันยุงและไม้ขีดไฟซึ่งเป็นอุปกรณ์เผาป่า พร้อมไฟแช็ค เดินทางเข้ามาชี้จุดเกิดเหตุ ที่บริเวณกระท่อมเพิงพัก หลังโรงโม่หิน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.พ.63 ช่วงประมาณ 11:00 น ทางเจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวไฟป่า กรมป่าไม้ และ นายอิศเรศ จิรารัตน์ ผอ.ศูนย์ส่งเสริมควบคุมไฟป่าภาคกลาง หรือ ผอ.ชุดเหยี่ยวไฟป่า ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟป่า เข้าไปดับไฟป่าในพื้นที่ติดกับโรงโม่หินดังกล่าว หลังจากพบว่ามีไฟไหม้ป่ากินพื้นที่บริเวณกว้าง หลังสำรวจความเสียหายพบว่าไฟไหม้ป่ากินเนื้อที่ถึง 109 ไร่ โดยจุดที่เกิดไฟอยู่ห่างจากเพิงพักของรปภ.รายนี้เพียง 10 เมตรเท่านั้น
จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเหยี่ยวไฟป่าพบว่าที่บริเวณเพิงพัก ของผู้ต้องหารายนี้ พบอุปกรณ์ที่ถูกทำเป็นชนวนจุดไฟ เพื่อใช้เป็นต้นเพลิงแบบถ่วงเวลา ซึ่งผู้บังคับการภูธรจังหวัดลำปาง ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาดังกล่าว โดยยอมรับว่า ยากันยุงที่พันด้วยก้านไม้ขีดไฟนั้นเป็นของตนเองจริง แต่ให้การปฏิเสธว่า ไฟไหม้ป่ารอบๆ พื้นที่โรงโม่หิน ที่เกิดความเสียหายกว่า 100 ไร่เมื่อวันก่อนนั้น ไม่ใช่เป็นฝีมือของตนเอง และไม่ทราบว่าเป็นการกระทำของผู้ใด แต่ที่ทำฉนวนพร้อมไม้ขีดไฟแบบนั้นขึ้นมาเพราะตั้งใจจะนำ ไปเผาไร่นา ทุ่งหญ้าที่บ้านตัวเองที่ อำเภอแม่ทะ จ.ลำปาง.