ผูู้้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ แจงกรณีมีกลุ่มพนักงานดับเพลิงและกู้ภัยจำนวนหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 โดยได้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคแล้ว และกลุ่มพนักงานที่ติดเชื้อปฏิบัติงานในพื้นที่ปิด ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้โดยสาร รวมทั้งไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการของสนามบิน
วันที่ 23 เมษายน 2564 นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีมีพนักงานและลูกจ้างส่วนดับเพลิงและกู้ภัย ฝ่ายปฏิบัติการท่าอากาศยาน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำนวน 11 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า จากการสอบสวนโรคเบื้องต้น พบว่าเป็นการติดเชื้อจากการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เนื่องจากเป็นการติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการจึงไม่รู้ตัว จนกระทั่งลูกจ้างคนหนึ่งมีอาการป่วย และได้ไปรับการตรวจที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา และพบว่าผลเป็นบวก จากนั้นพนักงานและลูกจ้างทั้งหมดจำนวน 81 คน ได้ทยอยเข้ารับการตรวจเป็นลำดับ เนื่องจากถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ล่าสุดผลการตรวจ ณ วันที่ 23 เมษายน 2564 มีพนักงานและลูกจ้างที่ผลเป็นบวกทั้งสิ้น 11 ราย และรอผลการตรวจอีก 13 ราย นอกนั้นอีก 57 ราย ผลเป็นลบ ซึ่งกลุ่มพนักงานลูกจ้างที่ติดเชื้อดังกล่าว ขณะนี้ทั้งหมดได้เข้ารับการรักษาและดูแลในระบบสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า เนื่องจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย เป็นการปฏิบัติงานในลักษณะของการเตรียมความพร้อม ณ ที่ตั้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดและเป็นพื้นที่หวงห้าม จึงไม่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลภายนอก รวมถึงผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ แต่หากต้องให้พนักงานและลูกจ้างที่ผลตรวจเป็นลบทั้งหมดกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน จะส่งผลกระทบต่อการให้บริการของท่าอากาศยาน จึงได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในส่วนดับเพลิงและกู้ภัยให้พนักงานและลูกจ้างส่วนหนึ่งกักตัวสังเกตอาการ และยังสามารถปฏิบัติงานได้ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งล่าสุดทีมระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ามาตรวจสอบและให้คำแนะนำในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคแล้ว นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลนครเชียงใหม่ และเทศบาลตำบลช้างเผือกเข้ามาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งจะมีรถพระราชทานมาดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกให้กับกลุ่มผู้มีความเสี่ยง ในวันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 อีกด้วย