“คุณหญิงหน่อย”นำทีมพบสมาชิกพรรคเพื่อไทยภาคเหนือ แย้มความในใจแม้นพรรคเหมือนถูกวางระเบิดแต่ไม่เคยท้อขอให้ร่วมกันสร้างบ้านใหม่ให้แข็งแรง ย้ำ”ทักษิณ”วางมือไม่ยุ่งเกี่ยว ยันส่งผู้สมัครส.ส.ลงครบทุกเขตไม่หวั่นบางพื้นที่ถูกดูด ชี้ตัวเลือกในภาคอีสานและเหนือยังเหลือเยอะ ขณะที่ผลการเลือกประธานและกรรมการสาขาพรรคเด็ก “เจ๊แดง”เพียบ
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 21 ต.ค.61 ที่ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ต.แม่ปูคา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยได้จัดประชุมสมาชิกพรรค เพื่อจัดตั้งสาขาและเลือกคณะกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่(ภาคเหนือ) โดยมีสมาชิกพรรคได้ทยอยเดินทางมาลงทะเบียน โดยจุดลงทะเบียนด้านหน้าก่อนถึงห้องประชุม เป็นการลงทะเบียนสำหรับสมาชิกใหม่ ส่วนที่บริเวณหน้าห้องประชุมเป็นการลงทะเบียนของสมาชิกพรรคเพื่อไทยเดิม ที่ได้ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางพรรคเป็นผู้คัดกรองและอนุญาตให้เฉพาะสมาชิกพรรคที่ได้รับเชิญให้เข้าห้องประชุมเท่านั้น ส่วนสมาชิกเดิมแต่ไม่ได้ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนเม.ย.61 รวมทั้งสมาชิกใหม่จะไม่อนุญาตให้เข้าห้องประชุม ขณะที่อดีตแกนนำของพรรคเพื่อไทยที่ทั้งจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่และกำแพงเพชรเดินทางมาถึงในช่วงแรก อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง,นางลดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ ,นายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ นายสามารถ แก้วมีชัย นายทวีศักดิ์ อนันทพันธุ์ นายสงวน พงษ์มณี นายวิทยา ทรงคำ นายประสิทธิ์ วุฒินันไชย นายธานินทร์ สุภาแสน อดีตผวจ.เชียงใหม่และลำปาง นายนพคุณ รัฐไผท นายศรีเรศ โกฏคำลือและนายแพทย์นิยม วิวัฒน์ดิษกุล นอกจากนี้ยังมีคลื่นลูกใหม่ซึ่งเป็นทายาทอดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทย อาทิ นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชาย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์,นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม อดีตประธานสาขาพรรคเพื่อไทย จังหวัดเชียงใหม่ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตแทนน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์,ดร.อรุณี กศยามน จากพิษณุโลก ดร.นิศามารถ เลาหรัตนหิรัญ หรือ ดร.เอิง จากขลบุรี น.ส.อาภาพร ปากน้ำ จากสุโขทัย น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ ลูกสาวอดีตส.ส.ศรีเรศ โกฏคำลือ
สำหรับการประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งสาขาพรรคเริ่มในเวลา 10.00 น.โดยมีพ.ต.ท.ปกรณ์กฤษณ์ ใหญ่โต พนักงานการเลือกตั้ง(ชำนาญการ)ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานพรรคการเมือง สำนักงานกกต.จังหวัดเชียงใหม่และจนท.กกต. เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมครั้งนี้ด้วย โดยการประชุมเป็นการประชุมปิด(ภายใน)เฉพาะสมาชิกพรรคซึ่งมีสมาชิกที่มาลงทะเบียน 150 คน มีนายนพคุณ รัฐไผท อดีตส.ส.เชียงใหม่ซึ่งได้รับมอบหมายจากพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการณ์หัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งใช้เวลาในการประชุมและลงคะแนนเพื่อเลือกประธานสาขาพรรคเกือบ 2 ชั่วโมง ผลการลงคะแนนปรากฏว่านายบุญธรรม บุญหมื่น อดีตส.อบจ.เชียงใหม่เขตอ.สารภีได้รับเลือกด้วยคะแนน 132 เสียง นอกจากนี้ยังมีนายจิระพงษ์ วรรณะกลาง ว่าที่ร.ต.จักราวุฒิ ไชยยา นางวิทยาลักษณ์ สามใจ นางสาวสกาวเดือน เวชสัมพันธ์ นางพันชญา สุภาพ น.ส.อรวรรณ จันระวังยศ นายสวัสดิ์ ถาปินตาและนายประวิทย์ วงศ์อ้าย (อดีตคนขับรถนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์)เป็นนายทะเบียน
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไท ย พร้อมด้วยพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตส.ส.เพื่อไทย เดินทางมาถึงในเวลา 11.20 น.และได้ไปพูดคุยกับนายจาตุรนต์ที่ห้องรับรองด้านข้างห้องประชุม ก่อนที่นายจาตุรนต์จะเดินทางกลับก่อนที่การลงคะแนนเลือกประธานสาขาพรรคจะแล้วเสร็จ
ภายหลังจากการลงคะแนน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์พร้อมด้วยพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นางลดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์และนายนพคุณ รัฐไผทได้ขึ้นเวทีเพื่อพบปะพูดคุยกับสมาชิกพรรคพร้อมกับกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวบนเวทีสรุปใจความได้ว่า “บรรยากาศในวันนี้เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมากหลังจากที่ 4 ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีกิจกรรมที่จะทำให้ได้พบปะพูดคุยกัน และแม้ว่าที่ผ่านมาพรรคจะเหมือนโดนทั้งมรสุม ทั้งระเบิดบ้าง แต่พวกเราก็ไม่ท้อ ก็ยังทำให้สมาชิกเรารักและผูกพัน เราต้องมาช่วยกันสร้างบ้านหลังนี้ให้เข้มแข็งต่อไป เราเป็นพรรคเดียวที่มีสโลแกนเพื่อประชาชนและยืนยันว่าเราจะเดินหน้ารวมพลังเพื่อให้พรรคเพื่อไทยของเราเข้มแข็ง ซึ่งจริงๆ วันนี้เรามีเรื่องที่อยากพูดคุยกันมาก แต่ด้วยเวลาที่จำกัด วันนี้ทุกคนมาด้วยความรักรวมถึงอดีตส.ส.ของพรรคที่มาวันนี้ และได้ความรักกลับไปเพื่อทำหน้าที่ ทำอย่างไรก็ได้ทุกวิถีทาง ด้วยปัญญา ด้วยจุดแข็งดั้งเดิมและพลังของพวกเราเพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี”
ด้านพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 2 ซึ่งทางพรรคได้เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ตั้งของสาขาพรรค ส่วนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรืออีสานก็จะตั้งสาขาที่จังหวัดอุดรธานี และที่ภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนภาคกลางจะตั้งสาขาพรรคที่จังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้จะมีการประชุมใหญ่ที่กรุงเทพเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค โดยกรรมการสาขาพรรคจะเป็นผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเราจะส่งส.ส.ลงสมัครรับเลือกตั้งให้ครบทั้ง 4 ภาคและทุกเขต เพื่อเดินหน้ากู้วิกฤตชาติด้วยกันและขอแสดงความยินดีกับประธานสาขาพรรคลำดับที่ 2 และกรรมการทุกท่านด้วย
ทางด้านนางลดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปเราไม่ได้ต่อสู้แค่กับเผด็จการ แต่เราก็ต้องต่อสู้เพื่อเอาประชาธิปไตยกลับคืนมาด้วย การประชุมในครั้งนี้ทั้งรักษาการหัวหน้าพรรคและคุณหญิงสุดารัตน์ รวมถึงอดีตส.ส.จากหลายพื้นที่ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วย เพื่อยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีใครทอดทิ้งพวกเรา ซึ่งมีเชียงใหม่เป็นแกนหลักสร้างมาถึง 3 รัฐบาลที่ผ่านมาของพรรคตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชนมาเพื่อไทยเราได้สร้างนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นที่นี่ พวกเราเป็นกลุ่มคนที่สร้างรัฐบาลมาได้ถึง 3 รัฐบาลเป็นผลสำเร็จมาแล้ว ได้นายกรัฐมนตรีคนเชียงใหม่ 2 คนและเขยเชียงใหม่อีก 1 คน ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่เราทำได้
ทั้งนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการคัดเลือกกรรมการสาขาซึ่งเป็นสาขาที่มีอยู่ดั้งเดิมที่จังหวัดเชียงใหม่และรับสมัครสมาชิกพรรคที่ถูกเซ็ตซีโร่ไปก็ต้องเปิดรับสมาชิกใหม่ ในส่วนของผู้สมัครนั้นจะให้สิทธิส.ส.เดิมก่อน โดยภาคเหนือและอีสานจะมีผู้สมัครลงค่อนข้างล้นแต่ก็ให้สิทธิคนเดิมก่อนแต่ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง ในเบื้องต้นที่พบว่าอดีตส.ส.ที่ย้ายพรรคจะอยู่ทางภาคเหนือตอนล่าง แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับทางพรรค และขณะนี้ที่พรรคทำโพลสำรวจพบว่าประชาชนให้ความนิยม หรือความต้องการของประชาชนมากขึ้น เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนและคาดหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพรรคได้ วันนี้จึงมุ่งมั่นทำงาน เอาจุดแข็งในอดีตที่ศึกษาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริงและแสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่ทำได้จริงไปทำ เป็นพรรคที่คิดเป็นทำเป็นและทำสำเร็จ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ประชาชนกว่า 10 ปียังให้ความนิยมและเมตตาจากความจริงใจและซื่อสัตย์ที่พรรคทำงานให้ประชาชน ซึ่งทำงานบนหลักคิดบนวิทยาศาสตร์ แนวทางแก้ปัญหาและลงมือปฏิบัติโดยไม่เกรงกลัวว่าจะไปติดขัดหรือสะดุด จนสามารถแก้ไขและทำให้ประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหาได้
การทำงานในยุคนี้ยิ่งทำได้ดีโดยใช้เทคโนโลยีที่สามารถนำเอาปัญหาของประชาชนมาแก้ไขได้ โดยเชื่อมโยงกับโลกใหม่ที่มีเทคโนโลยีที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินให้ประชาชนได้ง่ายขึ้น เราจะเดินหน้า มองแก้ไขปัญหาความทุกข์ของประชาชนทั้งเศรษฐกิจ ความเหลือ่มล้ำและความไม่เป็นธรรมก็จะเดินหน้าต่อไป แม้กฎหมายใหม่จะทำให้พรรคทำงานยากขึ้นแต่เราก็จะไมทำให้ผิดกฎหมาย
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังตอบคำถามกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่าพร้อมจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของสื่อ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณไม่คิดจะหวลกลับคืนมาสู่การเมืองอีกและได้พูดชัดเจน ที่พูดไปก็ในฐานะคนไทยที่เห็นว่ามีประโยชน์ แม้จะอยู่ที่ไหนแต่ก็มีความรักและห่วงใยในประเทศและไม่มีปัญหา และในเรื่องการเมืองพ.ต.ท.ทักษิณได้พูดชัดเจนแล้วว่าไม่คิดที่จะหวลกลับมาการเมืองอีกแล้ว
สำหรับการเลือกหัวหน้าพรรค ก็จะไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่น แต่จะต่างตรงที่เลือกหัวหน้าพรรคก็จะใช้วิธีเดียวกับเลือกประธานสาขาพรรค ซึ่งจะเอาโหวตเตอร์ไปยกมือเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยทำอะไรนิดหน่อยก็ต้องระวังเพราะได้ผ่านการยุบพรรคไป 2 รอบแล้ว ไม่ใช่คนๆ เดียวชี้ไม่ใช่ เพียงแต่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ไปหาเสียงเหมือนพรรคการเมืองอื่น และกฎหมายใหม่ครั้งนี้ก็ไม่เหมือนที่ผ่านมาแม้จะมีการได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ก็ต้องพยายามและทำตามกรอบกฎหมาย แม้จะยากขึ้นแต่ไม่ถอดใจ ซึ่งสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมองว่าขณะนี้ประชาชนเองก็ต้องการให้ประชาธิปไตยกลับคืนมาและพรรคที่อยู่ในซีกประชาธิปไตยน่าจะได้เก้าอี้มากเกิน 230 ที่นั่ง เพราะประชาชนรู้สึกว่าที่ผ่านมาได้รับความไม่เท่าเทียม ยากลำบากและมีความต้องการนำประชาธิปไตยกลับคืนมามากกว่า.