ตาก / ชาวพบพระร่วมครึ่งพัน รวมตัวคัดค้านโครงการส่วนขยายของ กปภ.เขต 10 หลังพบวางท่อดึงน้ำไปบ้านวาเล่ย์ รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งที่มติประชาคมไม่ผ่าน 2 ครั้งรวด มั่นใจกระทบต่อแหล่งน้ำชุมชน ด้าน นอภ.ใช้ตำแหน่งประกัน ยันกปภ.จะเร่งนำท่อน้ำประปาออกจากพื้นที่ตามข้อตกลง เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพบพระ จ.ตาก ชาวตำบลพบพระ กว่า 500 คน ถือป้ายชุมนุมคัดค้านโครงการส่วนขยายของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อแหล่งน้ำของชุมชน และชาวบ้านจะเดือดร้อนจากการใช้น้ำที่มีไม่เพียงพอ
นายเสาร์ คำปัญญากุล รองนายกเทศมนตรีตำบลพบพระ ในฐานะแกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า เดิมทีชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยการใช้น้ำจากประปาชุมชน มีแหล่งน้ำมาจากห้วยล่องบอน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าห้วยหลวง และป่าเตยซึ่งเป็นป่าของชุมชน ส่วนน้ำใช้ของประปาส่วนภูมิภาคนั้น มีฐานการผลิตอยู่เหนือป่าชุมชน ก็ดึงน้ำจากห้วยล่องบอน กระทั่งช่วงปี 2561 สำนักงานประปาส่วนภูมิภาค เขต 10 นครสวรรค์ เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบ มีโครงการส่วนขยาย จะดึงน้ำไปยังบ้านวาเล่ย์ ต.วาเล่ย์ เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งชาวบ้านไม่เห็นด้วย
เพราะเห็นว่าท่อน้ำที่จะนำมาติดตั้งในส่วนขยายนั้น มีขนาดใหญ่มากกว่า 10 นิ้ว ใหญ่กว่าของประปาชุมชนหลายเท่า หากโครงการแล้วเสร็จ มีการดึงน้ำไปใช้จริง จะทำให้น้ำจากแหล่งต้นน้ำลดน้อยลง กระทบต่อป่าชุมชนที่มีห้วยล่องบอนไหลผ่าน และที่นั่นยังมีตาน้ำผุด ซึ่งชาวบ้านได้ใช้เป็นแหล่งน้ำในการทำระบบประปาให้ชุมชนอีกด้วย ขณะเดียวกันในช่วงฤดูแล้งน้ำ ปกติก็มีใช้ไม่ค่อยจะเพียงพออยู่แล้ว หากมีการดึงน้ำบริเวณนี้ไปอีก ชาวบ้านย่อมเดือดร้อนอย่างแน่นอน จึงออกมายื่นหนังสือคัดค้าน และต้องการให้มีการยกเลิกโครงการดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงาน ระหว่างการชุมชนประท้วง ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 (ฉก.ร.14) มาดูแลรักษาความสงบ ต่อมานายอภิชาติ เหมือนมนัส นายอำเภอพบพระ และนายวรัตม์ฐนัน ศริริวัฒน์ ผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาค อำเภอแม่สอด ผู้รับผิดชอบการประปาส่วนภูมิภาคพื้นที่ อ.พบพระ ได้ลงมารับหนังสือคัดค้าน
นายอภิชาติ กล่าวว่า เมื่อชาวบ้านไม่ต้องการให้โครงการเดินหน้าต่อ ตนก็พร้อมที่จะประสานไปยังการประปาส่วนภูมิภาค เพื่อหาทางออกกันอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ชาวบ้านสลายการชุมนุมไปก่อน
ด้านนายวรัตม์ฐนัน กล่าวกับชาวบ้านว่า โครงการดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนของงบประมาณตามแผนพัฒนายุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ในส่วนขยายของ กปภ.เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะเกิดขึ้น อันเป็นการเตรียมพร้อมเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตามส่วนนี้เป็นเพียงการขอใช้ชั่วคราวเท่านั้น อาจจะ 5-6 ปี ระหว่างรอให้ กปภ.พิจารณาจัดหาสถานที่ก่อสร้างในพื้นที่ที่เหมาะสมต่อไป แต่เมื่อชาวบ้านไม่เห็นด้วย ตนก็จะเสนอไปยังสำนักงานเขต เพื่อพิจารณาให้มีการยกเลิกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยังไม่พอใจ เนื่องจากอยากได้คำยืนยันที่ชัดเจนในการยกเลิกโครงการ ทำให้บรรยากาศเริ่มตึงเครียด มีแกนนำชาวบ้านผลัดกันขึ้นไปพูดบนเวที พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการรื้อถอนท่อน้ำที่วางไว้แล้วออกจากพื้นที่ ไม่เช่นนั้นจะไม่ยอมสลายการชุมนุม ทางฝ่ายปกครองจึงได้พยายามเรียกแกนนำเข้าไปพูดคุยแต่ไม่เป็นผล
กระทั่งภายหลังการหารือระหว่างนายอำเภอพบพระ ผกก.สภ.พบพระ และ ผจก.ประปาส่วนภูมิภาค อ.แม่สอด จึงลงมาพบผู้ชุมนุมอีกครั้ง พร้อมทั้งชี้แจงข้อสรุปตามข้อเรียกร้องในเบื้องต้น จะให้ผู้รับเหมายกท่อน้ำประปาออกจากพื้นที่ภายใน 1-2 วัน ส่วนที่ได้ฝังไปแล้ว ก็ให้คงไว้ตามเดิม ซึ่งยังเดินท่อมาไม่ถึงเขตตำบลพบพระ ขณะเดียวกันนายอำเภอพบพระได้ยืนยันกับชาวบ้าน ว่า กปภ.จะต้องเร่งนำท่อน้ำประปาออกจากพื้นที่ตามที่ได้ตกลงกันไว้ โดยเอาตำแหน่งตัวเองเป็นประกัน ทำให้บรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย ชาวบ้านรับข้อตกลง และยอมสลายการชุมนุมในที่สุด
ทั้งนี้ โครงการส่วนขยายของ กปภ.เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดำเนินการด้วยงบประมาณ 24 ล้านบาท ได้มีการจัดประชาคมไปแล้ว 2 ครั้งเมื่อ ปี 2561 ซึ่งมีมติไม่ผ่าน ทั้ง 2 ครั้ง กระทั่งต้นเดือน มิ.ย.2562 ที่ผ่าน กลับมีการวางและฝังท่อน้ำประปาจากฝั่ง ต.วาเล่ย์ เข้ามา เพื่อจะเชื่อมต่อกับท่อเดิมที่ อ.พบพระ จนเป็นสาเหตุให้มีการชุมนุมคัดค้านในครั้งนี้ ขณะเดียวกันชาวบ้านก็ยังไม่เคยได้รับการชี้แจงข้อมูลที่ชัดเจน ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าจะกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งของคนทั้ง 2 ตำบล คือ ต.พบพระ และ ต.วาเล่ย์.