กองทัพภาคที่ 3 จับมือ จ.ตาก เร่งแก้ไฟป่า-หมอกควัน ทั้งดับไฟ-เฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์

กองทัพภาคที่ 3 จับมือ จ.ตาก เร่งแก้ไฟป่า-หมอกควัน ทั้งดับไฟ-เฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 ร่วมกับ จ.ตาก แถลงข่าวสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดตาก หลังตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) สูงเป็นอันดับ 1 ของ 17 จังหวัดภาคเหนือ ปรับแผนการดำเนินงานเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยมีการดับไฟป่าทั้งภาคพื้นดิน และทางอากาศยาน เข้าดำเนินการดับไฟป่าในพื้นที่ต่างๆ ที่เกิดไฟไหม้ , มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย จับกุมดำเนินคดี ทั้งการฝ่าฝืนประกาศห้ามเผา

วันนี้ (3 มี.ค. 66) เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมทีลอซู ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย พลตรี ศราวุฒิ เกิดหลำ ที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 3 พลตรีอาสาฬหะ พูลสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 310 นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พันตำรวจเอก ชูสิทธิ์ วงษ์บุรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก พันเอกสาธิต ไวยานนท์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตาก ฝ่ายทหาร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตาก ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดตาก หลังตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) สูงเป็นอันดับ 1 ของ 17 จังหวัดภาคเหนือ ต่อสื่อมวลชนในพื้นที่

ด้วยปัจจุบัน จังหวัดตากมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ PM 2.5 เกินเกณฑ์ค่ามาตรฐานที่กำหนดไปแล้ว 30 วัน และตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) จำนวนมาก โดยข้อมูลของสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 24 ก.พ. – 2 มี.ค. 66) ตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) รวม 1,905 จุด ซึ่งอำเภอที่พบจุดความร้อนมากที่สุด ได้แก่ อำเภอสามเงา 584 จุด รองลงมา ได้แก่ อำเภออุ้มผาง 330 จุด โดยเฉพาะ 2 วันที่ผ่านมา (1-2 มี.ค. 66) จังหวัดตาก ตรวจพบจุดความร้อน สูงเป็นอันดับ 1 ของ 17 จังหวัดภาคเหนือ

ในการนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดตาก และกองทัพภาคที่ 3 ได้แถลงการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ซึ่งปัจจุบันได้มีการปรับแผนการดำเนินงานเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยมีการดับไฟป่าทั้งภาคพื้นดิน และทางอากาศยาน เข้าดำเนินการดับไฟป่าในพื้นที่ต่างๆ ที่เกิดไฟไหม้ , มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย จับกุมดำเนินคดี ทั้งการฝ่าฝืนประกาศห้ามเผาของจังหวัดตาก และการตรวจสอบคุณภาพควันดำจากท่อไอเสียของยานพาหนะ , ให้มีการปิดป่าทั้งพื้นที่ของอุทยาน และกรมป่าไม้ พร้อมทั้งให้มีการตั้งด่านตรวจ และออกลาดตระเวน ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนให้ดำเนินการจับกุมทันที ขณะเดียวกัน ให้ทุกอำเภอสนธิกำลังปล่อยแถวลาดตระเวน ให้พร้อมเผชิญเหตุและจัดชุดจับกุม โดยในส่วนของจังหวัดตาก มีกำหนดปล่อยแถวในพื้นที่อำเภอแม่สอด เนื่องจากการประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า ยังมีการลักลอบเผาหลังจากที่จังหวัดตาก มีประกาศห้ามเผาเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา จึงต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาดและเข้มข้นขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิด ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดตากเรื่องห้ามเผาไปแล้วจำนวน 13 ราย

ทั้งนี้ จ.ตาก ได้มีประกาศห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นที่โล่งหรือพื้นที่เกษตร ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2566 ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับ และขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นไฟป่า หรือการลักลอบเผาในที่โล่ง ให้โทรศัพท์แจ้งสายด่วน 1362, 1784 หรือ 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดำเนินการต่อไป

You may also like

บสย. จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา โครงการ “บสย. ร่วมใจ ทำดี เพื่อสังคม” ครั้งที่ 2 ร่วมซ่อมแซม ทาสี เครื่องเล่นเด็ก ปลูกต้นไม้ ณ สวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์

จำนวนผู้