บสย.เผยผลค้ำประกันสินเชื่อไตรมาสแรกทะลุเป้าช่วยSMEsเข้าถึงแหล่งทุนเกือบ 2 หมื่นราย

บสย.เผยผลค้ำประกันสินเชื่อไตรมาสแรกทะลุเป้าช่วยSMEsเข้าถึงแหล่งทุนเกือบ 2 หมื่นราย

บสย.เผยผลการค้ำประกันสินเชื่อไตรมาสแรกปี 60 ช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนเกือบ 2 หมื่นรายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อกว่า 11,000 ล้านบาท เฉพาะลูกค้ารายใหม่กว่า 16,000 ราย ขณะที่บสย.สุราษฎร์ปลื้มช่วยลูกค้ารายใหม่ได้สำเร็จเกินเป้าหมายถึงร้อยละ 45 ด้านบสย.เชียงใหม่พอใจผลค้ำประกันเทียบสาขาในภูมิภาคอยู่ในลำดับที่ 2 ของประเทศ

นางพงษ์ทิพย์ เทศะภู ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)พร้อมด้วยนายเทียบจิตต์ จันทรภูติผลากร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา สำนักงานสาขาสุราษฎร์ธานี และนายดำริ ขวัญสุวรรณ ผจก.บสย.สำนักงานสาขาเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลดำเนินงานของ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.ใน) ไตรมาสแรก (1 มกราคม – 31 มีนาคม 2560) ว่า เป็นไปตามเป้าหมาย สามารถช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยมีการอนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อกว่า 11,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนรายการ (LG) ที่ได้รับการอนุมัติ 19,271 รายการ โดยเป็นลูกค้าใหม่กว่า 16,000 ราย

ทั้งนี้ผลดำเนินงานแยกรายสาขาจาก 11 สาขา 5 อันดับแรกที่มียอดอนุมัติค้ำประกันสูงสุดคือ สาขากรุงเทพมหานคร มียอดอนุมัติ 5,583 ล้านบาท ตามด้วยสาขาชลบุรี 1,236 ล้านบาท สาขาเชียงใหม่ 1,013 ล้านบาท สาขาสุราษฎร์ธานี 920 ล้านบาท และอันดับที่ 5 สาขาอุดรธานี 883 ล้านบาท ในส่วนของหนี้เสียของการค้ำประกัน(NPG=Non-Performing Guarantee)เฉลี่ยอยู่ที่ 6-7%

นายเทียบจิตต์ จันทรภูติผลากร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา สำนักงานสาขาสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำหรับบสย.สาขาสุราษฎร์ธานี ดูแลพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี, กระบี่, ชุมพร, พังงา, ภูเก็ต และ ระนอง ในไตรมาสแรกมีการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ 920 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน LG (รายการ) ที่ บสย. อนุมัติรวม 2,047 LG ส่งผลต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1,046 คน โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ลูกค้ารายใหม่สำเร็จเกินเป้าหมายที่วางไว้ถึง 45% คิดเป็น 1,042 ราย เฉพาะจังหวัดภูเก็ต บสย. ค้ำประกันสินเชื่อรวม 264 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 295 LG ส่งผลต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้น 346 คน

“การค้ำประกันของสาขาสุราษฎร์เติบโตเกือบ 200% ในแต่ละปี สำหรับกิจการที่ได้รับการค้ำประกันหลักๆ เป็นอุตสาหกรรมเกษตรเช่นยางพารา กาแฟ และอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปทั้งน้ำมันยาง ไม้ยางพาราและประมง เนื่องจากปี 2559 สุราษฎร์ฯเจออุทกภัยทำให้เป้าการค้ำประกันในไตรมาสแรกทำได้ต่ำกว่าเป้าจาก 715 ล้านทำได้ 70 ล้านบา แต่เป้าตามหนี้สามารถทำได้ตามที่ได้รับมอบหมายคือ 25 ล้านบาท”ผช.ผอ.ฝ่ายกิจการสาขา สำนักงานสาขาสุราษฎร์ธานี กล่าวและชี้แจงอีกว่า

ในส่วนของการอนุมัติให้ผู้ประกอบการรายได้รายใหม่สาขาสุราษฎร์สูงเป็นอันดับ 1 คือ 1,581 รายสูงถึง 220% โดยเกินจากเป้า 863 ราย ทั้งนี้เนื่องจากลูกค้าในภูเก็ตค่อนข้างเข้มแข็ง โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ของบสย.จะอยู่ในภูเก็ตคือบริษัทซุปเปอร์ซิฟ ซึ่งประกอบกิจการค้าปลีกค้าส่ง ปัจจุบันมีสาขาในภูเก็ตถึง 60 สาขาและกำลังขยายไปยังพังงาและกระบี่ จากเดิมที่จ้างพนักงาน 400 กว่าคนปัจจุบันมีพนักงานสูงถึง 4,700 คน และแม้จะมีห้างค้าปลีก ค้าส่งข้ามชาติเข้ามาในพื้นที่แต่ซุปเปอร์ซิฟก็ยังเติบโตได้ดีมียอดขายสูงอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านนายดำริ ขวัญสุวรรณ ผจก.บสย.สำนักงานสาขาเชียงใหม่ กล่าวว่า บสย. สาขาเชียงใหม่ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่, เชียงราย, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง และลำพูน บสย. มีการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ 1,012 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 1,564 LG ส่งผลต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1,387 คน เฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อรวม 419 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 465 LG ส่งผลต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้น 707 คน

“สำหรับวงเงินค้ำประกันหากเทียบกับสำนักงานสาขาทั้ง 10 สาขาของบสย.เชียงใหม่จะอยู่ในลำดับที่ 2 ในส่วนของจำนวนค้ำประกัน ส่วนลูกค้ารายใหม่ของสาขาเชียงใหม่มี 4,337 ราย และไตรมาสแรกของปีนี้จากเป้าลูกค้ารายใหม่ 791 ราย แต่บสย.เชียงใหม่มีลูกค้ารายใหม่ถึง 1,189 ราย และเมื่อเทียบกับทุกสาขาในภูมิภาคจะอยู่ในลำดับที่ 4 ส่วนการตามหนี้จากเป้า 17 ล้านบาทตลอดทั้งปี โดยไตรมาสแรกเป้าตามหนี้ 3.8 ล้านบาททำได้ 2.4 ล้านบาท”ผจก.บสย.สาขาเชียงใหม่ กล่าว.

 

You may also like

builds มช. ขนทัพสตาร์ทอัพนักศึกษาคับคั่ง พิสูจน์ความสำเร็จ ตั้งบริษัทจริงระหว่างเรียน

จำนวนผู้