รัฐบาลญี่ปุ่นส่งมอบรถโมบายและเครื่องเอกซเรย์ให้มูลนิธิเอ็มพลัส เสริมศักยภาพบริการสุขภาพเคลื่อนที่ในพื้นที่ภาคเหนือ

รัฐบาลญี่ปุ่นส่งมอบรถโมบายและเครื่องเอกซเรย์ให้มูลนิธิเอ็มพลัส เสริมศักยภาพบริการสุขภาพเคลื่อนที่ในพื้นที่ภาคเหนือ

รัฐบาลญี่ปุ่นส่งมอบรถโมบายและเครื่องเอกซเรย์ภายใต้โครงการคุชะโนะเนะ (KUSANONE – Grant Assistance for GrassroSecurity Projects)มูลค่า 4 ล้านบาท ให้มูลนิธิเอ็มพลัส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของมูลนิธิเอ็มพลัสในการดูแลผู้ป่วยและป้องกันผู้ติดเชื้อ สามารถเคลื่อนที่เข้าให้บริการในชุมชนในเมืองและห่างไกล พร้อมติดตั้งเครื่องเอกซเรย์แบบพกพา FDR Xair ที่สามารถตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นและเชื่อมโยงข้อมูลส่งต่อแบบ real-time ร่วมกับโรงพยาบาลเครือข่าย

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต รัฐบาลญี่ปุ่น โดยสถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ส่งมอบรถโมบายสุขภาพเคลื่อนที่พร้อมเครื่องเอกซเรย์แบบพกพา FDR Xair ให้แก่ มูลนิธิเอ็มพลัสอย่างเป็นทางการ ภายใต้โครงการคุชะโนะเนะ (KUSANONE – Grant Assistance for GrassroSecurity Projects) เพื่อเสริมศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์เคลื่อนที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบน  โดยมี Mr. Harada Masaru กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ นายชัชวาล ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  น.ส.จินตนา สันถวเมตต์ ผู้อำนวยการกลุ่ม สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 1 เชียงใหม่ น.พ.สุรเชษฐ์ อรุโณทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ น.พ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ Mr.Maruo So ประธานบริษัท FUJIFILM Thailand เข้าร่วมเป็นสักขีพยานการเปิดไฟโมเดลและมอบฟิล์มเอกซเรย์ ฉายภาพรถโมบายจริงและภาพในพื้นที่ห่างไกล

Mr. Harada Masaru กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ กล่าวว่า ยินดีให้การสนับสนุนโครงการ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมูลนิธิเอ็มพลัส ในการดูแลผู้ป่วยและป้องกันผู้ติดเชื้อ โดยรถโมบายที่ได้รับการสนับสนุนมีมูลค่า 4 ล้านบาท ได้รับการออกแบบให้สามารถเคลื่อนที่เข้าให้บริการในชุมชนในเมืองและห่างไกล พร้อมติดตั้งเครื่องเอกซเรย์แบบพกพา FDR Xair ที่สามารถตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นและเชื่อมโยงข้อมูลส่งต่อแบบ real-time ร่วมกับโรงพยาบาลเครือข่าย

“ในภาคเหนือมีชาวญี่ปุ่นมาพำนักกว่า 3,000 คน ในฐานะเพื่อนที่ดีของคนไทย ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงมีโครงการให้ความช่วยเหลือต่อเนี่อง โดยเฉพาะการมอบรถกู้ภัยฉุกเฉิน รถดับเพลิง และล่าสุดคือ รถโมบายสุขภาพเคลื่อนที่พร้อมเครื่องเอกซเรย์แบบพกพา FDR Xair ให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่มีความจำเป็นในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์“ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ กล่าว

นายพงศ์ภีระ พัฐภีระพงศ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิเอ็มพลัส กล่าวว่า โครงการนี้เป็นตัวอย่างของความร่วมมือข้ามประเทศที่เป็นรูปธรรมช่วยเติมเต็มศักยภาพการบริการทางการแพทย์เชิงรุกและสนับสนุนระบบสุขภาพชุมชนของไทยให้มีความคล่องตัว ทันสมัย และเข้าถึงมากขึ้นแก่ชุมชนและประชาชนทุกคน เป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม ซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดในการตรวจสุขภาพ เอกซเรย์ปอด และคัดกรองโรควัณโรคในอนาคต

น.พ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์จังหวัดเชียงใหม่ ในปี 2568 พบว่า มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีสะสม จำนวน 22,070 คน เป็นเพศชาย 12,804 คน เพศหญิง 9,266 คน พบผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ในช่วงอายุ  25 – 49 ปี มีผู้ป่วยที่เข้าการรักษาและรับยาต้านไวรัส จำนวน 19,015 คน คิดเป็น 86.16% พบผู้เสียชีวิตสะสม 5,227 คน จากการดำเนินงานในปี 2568 จังหวัดเชียงใหม่ และการตรวจคัดกรองเชิงรุกในตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี เพื่อให้ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงพบว่าประชาชนทราบสถานะการติดเชื้อของตนเอง จำนวน 32,677 คน พบผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ จำนวน 338 ราย คิดเป็น 1% และเริ่มการรักษาด้วยยาต้านไวรัส  จำนวน 267 คน คิดเป็น 78.99% และมากกว่า 43% มีระดับเม็ดเลือดขาว CD4 ต่ำกว่า 200 ลูกบาศก์มิลลิเมตร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีเชื้อทราบสถานการณ์ติดเชื้อของตนเองและเข้าถึงการรักษาช้า นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตในปี 2568 จำนวน 151 คน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่เผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี วัณโรค หรือไวรัสตับอักเสบซี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตลอดจนการลดการตีตราและเลือกปฏิบัติที่ยังคงส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรเปราะบาง

ทั้งนี้ มูลนิธิเอ็มพลัส เป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านสุขภาพทางเลือก สิทธิ และการเข้าถึงบริการการแพทย์มากว่า 20 ปี มูลนิธิเอ็มพลัส เป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่จดทะเบียนในเชียงใหม่ พ.ศ. 2546 มีบทบาทในการพัฒนารูปแบบบริการนำโดยชุมชน (Key Population-Led Health Services – KPLHS) และเป็นหน่วยบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำระบบบริการสุขภาพนำโดยชุมชน โดยมีเป้าหมายในการเสริมระบบสุขภาพของรัฐให้สามารถเข้าถึงประชาชนในหลากหลายมิติทางเพศ วัฒนธรรม และพื้นที่ภูมิศาสตร์ โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความร่วมมือที่ ‘มองเห็นความจำเป็นจากพื้นที่’ และเชื่อมโยงความร่วมมือระดับนานาชาติให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนไทยอย่างแท้จริง

You may also like

เปิดตัวความร่วมมือครั้งสำคัญ หนุนสตาร์ทอัพท่องเที่ยวท้องถิ่น ‘อี้ก่ะ’ และศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว ‘ไอเชียงใหม่’

จำนวนผู้