จากหมู่บ้านปลูกผักรักษ์สุขภาพ สู่งานประเพณี “ลอยกระทงสีเขียว”

จากหมู่บ้านปลูกผักรักษ์สุขภาพ สู่งานประเพณี “ลอยกระทงสีเขียว”

ชุมชนจะมีความเข้มแข็งได้ ต้องประกอบด้วยกลุ่มผู้นำที่มีความสามารถ มีเป้าหมายชัด มีแผนการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ชุมชนก้าวไปในทิศทางที่เหมาะสม และเป็นที่ต้องการของสมาชิกในชุมชนนั้นๆ

ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มีชุมชนแห่งหนึ่งพบว่าปัญหาสุขภาพของชาวบ้านเกิดจากการใช้สารเคมีทางการเกษตรอย่างไม่บันยะบันยัง สภาผู้นำชุมชนที่นี่จึงพยายามแก้ปัญหา โดยรณรงค์ลดการใช้ลง และส่งเสริมให้ปลูกผักในครัวเรือนไว้กินเอง เมื่อปลูกมากๆ ก็เหลือกิน จึงนำไปขาย สร้างรายได้อีกทาง ขณะเดียวกัน “ผัก” ก็ยังเป็นตัวเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม โดยนำไปเป็นองค์ประกอบหนึ่งของประเพณีลอยกระทงของชุมชนด้วยชุมชนที่ว่า คือบ้านหาดสองแคว หมู่ 2 ต.หาดสองแคว อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ เป็นชุมชนลาวเวียง มี 112 หลังคาเรือน ประชากร 354 คน พื้นเพประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก แต่ประสบปัญหาน้ำท่วม และภัยธรรมชาติ ส่วนหนึ่งจึงหันมาทำไร่ ทำสวน เช่น อ้อย ข้าวโพด พริก ถั่ว ฯลฯ หากสิ่งที่ตามมาคือการใช้สารเคมีในปริมาณมาก  โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสารเคมีของ อบต.หาดสองแคว พบว่าเกษตรกรร้อยละ 60-70 มีสารเคมีตกค้างในเลือดระดับสีแดง ประกอบกับแต่ละปีราคาปุ๋ย ยา แพงขึ้น ผกผันกับราคาพืชผลที่ตกต่ำ ทำให้ชาวบ้านมีหนี้สิน ความต้องการทำปุ๋ยชีวภาพ เพื่อลดต้นทุนการผลิตจึงสูงขึ้นเรื่อยๆวิภาพร  ชันยาสูบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เล่าว่า ความรุนแรงของปัญหา ถึงขั้นหัวหน้าครอบครัวที่เป็นแรงงานหลักในภาคเกษตรกรรมเสียชีวิตหลายราย ทิ้งภรรยาและลูกไว้เบื้องหลัง อันเป็นที่มาของความพยายามหาทางออก ด้วยการจัดตั้งสภาผู้นำ ซึ่งมาจากตัวแทนของทุกกลุ่มในหมู่บ้าน จำนวน 30 คน เพื่อดำเนินโครงการลดสารเคมีทั้งในภาคเกษตรกร และครัวเรือน ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนัก 6

 กติกาที่สมาชิกโครงการทุกคนได้ร่วมกันวาง และถือปฏิบัติ คือทุก 3 เดือน สภาผู้นำบ้านหาดสองแคว กับสมาชิกต้องช่วยกันทำน้ำหมักชีวภาพ และปุ๋ยหมักแบบไม่กลับกอง เมื่อหมักจนได้ที่ก็จะเปิดโอกาสให้สมาชิกได้ซื้อในราคาทุน ซึ่งถูกกว่าท้องตลาดมากกว่าครึ่ง เพื่อให้ใช้แทนปุ๋ยและสารเคมี เป็นการลดต้นทุนการผลิตพืชผัก ควบคู่ไปกับการรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่นขณะเดียวกันในการนำน้ำหมักชีวภาพ และปุ๋ยหมัก ซึ่งเรียกว่าสารชีวภัณฑ์ไปใช้ ทางสภาผู้นำก็จะคอยสอดส่องอย่างใกล้ชิดว่าใช้จริงหรือไม่ ใช้แล้วได้ผลอย่างไร เมื่อได้ผลผลิตชาวบ้านสามารถนำมาจำหน่ายบนถนนสายวัฒนธรรมภายในหมู่บ้าน  ไม่ว่าจะในรูปผักผลไม้สด ผักแปรรูป หรือนำไปทำอาหารพื้นบ้าน  และผลผลิตอีกส่วนหนึ่งแม่ค้าจะนำไปวางขายในตลาดทุกวันนอกจากนี้ สภาผู้นำหมู่บ้านหาดสองแคว ยังมีบทบาทในการหนุนเสริมให้ชาวบ้านจัดเก็บเมล็ดพันธุ์พืชผักเอง และจัดช่วงการปลูกพืชผักแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด โดยทางสภาผู้นำจะศึกษาว่าช่วงไหน ตลาดต้องการผักอะไร ราคาเป็นอย่างไร ทำให้ลดต้นทุนในการปลูก และดูแล ทั้งยังทำให้ผลผลิตได้ราคาดีด้วย“ผักที่ปลูก และเก็บเมล็ดพันธุ์ส่วนใหญ่เป็นผักพื้นบ้าน อาทิ กระเจี๊ยบเขียว (มะเขือแจ๊ะ), ผักปลัง, ชะอม, ขนุน, ดอกแค, พริก, มะนาว, มะเขือ, ฝรั่ง, กล้วย, อ้อย, ข้าวโพด, ฟัก, แตงไทย รวมถึงเพาะเห็ดนางฟ้า  ซึ่งมีทั้งที่ปลูกในบ้าน และปลูกในไร่สวน ขณะที่ทีมสภาผู้นำเอง ก็ทำเป็นตัวอย่าง ใช้พื้นที่แปลงรวมประมาณ 5 ไร่ ตรงข้าม อบต.หาดสองแคว ปลูกพืชผักตามฤดูกาล เพาะเห็ดนางฟ้า มีสถานที่ทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ น้ำส้มควันไม้ เมื่อได้ผลผลิตก็จะนำไปรับประทานภายในครัวเรือนและจำหน่าย ให้มีรายได้เข้ากองทุนหมุนเวียนใช้ในครั้งต่อไป” ผู้ใหญ่บ้านหาดสองแคว อธิบายทุกวันนี้ ผักปลอดสารเคมี ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันของชาวบ้านหาดสองแคว โดยไม่ได้จำกัดอยู่แค่การบริโภคเพื่อสุขภาพ และจำหน่ายสร้างรายได้เท่านั้น  หากยังผูกพันกับประเพณีวัฒนธรรมของคนลาวเวียงอย่างแน่นแฟ้น ดังเช่นงาน “ย่างเลาะ เซาะเบิ่ง เซาะกิน” ที่จัดขึ้นบนถนนสายวัฒนธรรมใจกลางหมู่บ้าน ทุกวันศุกร์แรกของเดือน ก็เก็บผักปลอดสารมาทำอาหารจำหน่าย หรือบ้างก็จำหน่ายผักสด ให้นักท่องเที่ยวที่มีทั้งคนในตำบลเดียวกัน และคนต่างถิ่นเข้ามาเลือกซื้ออย่างคึกครื้นและเนื่องจากการเปิดถนนสายวัฒนธรรมในวันศุกร์แรกของเดือนพฤศจิกายน ตรงกับวันลอยกระทง ทางสภาผู้นำชุมชน จึงได้หารือกับชาวบ้าน และตกลงให้เยาวชนในหมู่บ้าน ช่วยกันทำกระทงสีเขียว ปลอดสารเคมี และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ หรือสัตว์น้ำ โดยกระทงมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ใช้พืชผักที่ปลูกไว้มาประดับตกแต่งอย่างสวยงาม เมื่อได้เวลาก็ลอยร่วมกันทั้งหมู่บ้าน สืบสานประเพณีดั้งเดิมของชาวลาวเวียง เนื่องจากชุมชนที่นี่อพยพมาจากนครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาว ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3

 ธีระพงษ์ วงศ์แสน เยาวชนบ้านหาดสองแคว เล่าถึงกระทงสีเขียวของบ้านหาดสองแควว่า  ตกแต่งแตกต่างจากที่อื่น ใช้พืชผักปลอดสารเคมีที่แต่ละครัวเรือนปลูกไว้มาประดับ นอกเหนือจากหยวกกล้วยและใบตอง เช่น มะม่วงหาวมะนาวโห่ มะเชือ มะเขือเทศ ข้าวโพดอ่อน กระเจี๊ยบ แครอท และดอกดาวเรือง เป็นต้น ไม่เน้นดอกไม้สวยงาม เพื่อให้แน่ใจว่าวัสดุทุกอย่างที่นำมาใช้ปลอดจากสารพิษจริงๆ

จะเห็นได้ว่า การขับเคลื่อนภายในชุมชนเล็กๆ ก่อให้เกิดความตระหนักในวงกว้าง ส่งผลให้ผักปลอดสาร กลายเป็นทางเลือกที่ทุกคนยอมรับว่าปลอดภัยต่อการดำรงชีวิตประจำวัน. 

You may also like

อบจ.เชียงใหม่​ ร่วมภาคีเครือข่าย เฉลิมพระเกียรติ​ในหลวง ร.10 ครบ 6 รอบ “ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ที่หนองเขียว”

จำนวนผู้