เริ่มจ้างคนหาของป่า 2,402 คนเพื่อมีรายได้ช่วงปิดป่า จากทั้งหมด 4,679 คน

เริ่มจ้างคนหาของป่า 2,402 คนเพื่อมีรายได้ช่วงปิดป่า จากทั้งหมด 4,679 คน

เชียงใหม่เร่งประสานเจ้าของงบฯใช้งบกลางที่รัฐบาลจัดสรรให้จ้างคนมีอาชีพหาของป่าได้เพียง 2,402 คนจากยอดทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนไว้ 4,679 คน เชียงใหม่มีคนหาของป่ามากที่สุด 1,444 คนรองลงมาคือพร้าว เวียงแหงและแม่วาง

นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้ (9 มี.ค.67) ได้มีการประชุม สรุปเรื่องการจ้างกลุ่มคนหาของป่า ที่ให้ 25 อำเภอสำรวจข้อมูลผู้หาของป่าเพื่อจัดหางานและสร้างอาชีพให้เมื่อมีการประกาศปิดป่า ห้ามเข้าป่าโดยเด็ดขาดไว้ มีทั้งหมด 4,679 คน โดยมีอาชีพเป็นเกษตร 2,187 คน รับจ้าง 336 คน ค้าขาย 26 คนและว่างงาน 34 คน

ทั้งนี้รัฐบาลได้จัดสรรงบฯกลางมาให้แล้ว ซึ่งจะสามารถนำไปจ้างกลุ่มคนเหล่านี้ได้ตั้งแต่ 16 มี.ค.67 – 16 พ.ค.67 เดือนละ 9,000 บาท  โดยยอดล่าสุด รวม 2,402 คน  แยกเป็นพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้งบกลางฯ มาจ้างไปประจำจุดเฝ้าระวัง 158 จุด ๆ ละ 3 คน รวม 474 คน สำนักจัดการป่าไม้ ซึ่งรับผิดชอบป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่ง สจป.1 ได้งบกลางมาจ้าง 414 จุด ๆ ละ 3 คน รวม 1,242 คน

ขณะเดียวกันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  รายงานว่า พร้อมที่จะจ้างงานผู้ที่มีอาชีพหาของป่าได้ จำนวน  686 คน ดังนั้นทางจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอให้  ทสจ.ช่วยเป็นผู้ประสานงานกับ หน่วยงานเจ้าของงบประมาณ กับ ท้องถิ่นจังหวัด ช่วยประสานข้อมูล คนเก็บหาของป่ากับทาง นายอำเภอเพื่อดำเนินการได้ทันท่วงที

ทั้งนี้จากรายงานของทางจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอที่มีผู้หาของป่ามาขึ้นทะเบียนกับทางอำเภอไว้มากที่สุด 5 อันดับแรกคือ อ.เชียงดาว 1,444 คน รองลงมาคือ อ.พร้าว 1,100 คน,อ.เวียงแหง 350 คน อ.แม่วาง 242 คนและอ.ดอยสะเก็ด 131 คน.

You may also like

อบจ.เชียงใหม่​ ร่วมภาคีเครือข่าย เฉลิมพระเกียรติ​ในหลวง ร.10 ครบ 6 รอบ “ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ที่หนองเขียว”

จำนวนผู้