เชียงใหม่ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มเสี่ยงที่มีเกือบ 6 แสนคนให้ได้ร้อยละ 70

เชียงใหม่ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มเสี่ยงที่มีเกือบ 6 แสนคนให้ได้ร้อยละ 70

          เชียงใหม่ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มเสี่ยงที่มีเกือบ 6 แสนคนให้ได้ร้อยละ 70 ขณะที่มีผู้ลงทะเบียนแล้วเพียง 2 หมื่นกว่าคน ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป

นายแพทย์วทัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเตรียมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนว่า ตามที่รัฐบาลมีแผนการให้บริการวัคซีนโควิด 19 ให้ครบครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย อย่างน้อยร้อยละ 70 (ประมาณ 50 ล้านคน) ภายในปี 2564 โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้ระยะที่ 1 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า (เมษายน-พฤษภาคม 2564)ระยะที่ 2 สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค (ลงทะบียน พฤษภาคม 2564 เริ่มรับวัคซีน มิถุนายน 2564)ระยะที่ 3 สำหรับประชาชนทั่วไป (ลงทะบียน กรกฎาคม 2564 เริ่มรับวัคซีน สิงหาคม 2564)ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดดำเนินการ เปิดให้ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง เบาหวาน และโรคอ้วน ลงทะเบียนแสดงความประสงค์รับวัคซีนโควิด-19 เพื่อจัดลำดับนัดหมาย ผ่านไลน์หมอพร้อมเวอร์ชัน 2 ได้ หรือติดต่อนัดหมายที่โรงพยาบาลใกล้บ้านที่มีประวัติการรักษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)/อสม.ในพื้นที่ โดยเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 และเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.-31 ก.ค.นี้

โดยจังหวัดเชียงใหม่มีกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค จำนวน 523,080 คน ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการวางแผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในระยะที่ 2 สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ซึ่งเป็นเป็นกลุ่มที่หากติดเชื้อโควิด 19 แล้ว มีโอกาสที่จะป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้ แต่ในระยะนี้เปิดโอกาสให้เฉพาะคนไทย โดยหากเป็นผู้มีคุณสมบัติตามกลุ่มนี้ สามารถลงทะเบียนฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ผ่าน 3 ช่องทาง 1) อสม. หรือ รพ.สต. ในพื้นที่ 2) โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา/โรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน และ 3) LINE OA หมอพร้อม หากไม่ปรากฏชื่อในระบบ สามารถนำเอกสาร หลักฐาน (สำเนาบัตรประชาชน/ใบรับรองแพทย์) มาขอเพิ่มชื่อได้ ที่โรงพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนทุกแห่ง โดยสามารถเลือกรับบริการฉีดวัคซีน ได้ที่โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา โรงพยาบาลภูมิลำเนา หรือศูนย์ฉีดวัคซีนสนามจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันมี 2 แห่ง ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ (พรอมเมนาดา) และโรงพยาบาลนครพิงค์ (โรงยิม 2 สนามกีฬา 700 ปี)
สำหรับสถานที่รับบริการฉีดวัคซีน ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ สามารถเลือกรับบริการได้ 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราช นครเชียงใหม่ , โรงพยาบาลประสาท , โรงพยาบาลสวนปรุง , โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ (แม่และเด็ก) , โรงพยาบาลแมคคอร์มิค , โรงพยาบาลนครพิงค์ (โรงยิม 2 สนามกีฬา 700 ปี) , สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ (พรอมเมนาดา) ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด 19 จำนวน 22,569 คน คิดเป็นร้อยละ 4.31 ของกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิ์ โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 – 31 กรกฎาคม 2564 (54 วัน)

จากสถานการณ์การระบาดโควิ-19 ในจังหวัดเชียงใหม่ (ข้อมูล เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2564) พบผู้ติดเชื้อสะสม 3,766 ราย รักษาหาย 2,498 รายเสียชีวิต 7 ราย และยังคงรักษาตัว 1,261 ราย แบ่งเป็นกลุ่มสีเชียว ผู้ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย จำนวน 946 ราย , กลุ่มสีเหลือง ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง จำนวน 159 ราย , กลุ่มสีส้ม ผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว มีความเสี่ยงหรือมีโรคร่วมที่สำคัญ จำนวน 66 ราย , กลุ่มสีแดง ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จำนวน 20 ราย กลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เพื่อเป็นการลดความรุนแรงของโรค ลดการเสียชีวิต และลดการป่วยที่ต้องนอนในโรงพยาบาล รวมทั้งการฉีดวัคซีนจะช่วยลดการแพร่เชื้อ จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดเชียงใหม่ที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 และเข้ารับการฉีดวัคซีนทันทีเมื่อได้รับการติดต่อนัดหมายหากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ทางเบอร์ Call center 053-215183-85 , E-mail : covidcentercm@gmail.com , Line : @320cufot หรือรพ.สต. และโรงพยาบาลรัฐ ทุกแห่ง

รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนทั่วไป จะเปิดให้จองฉีดวัคซีนได้ในช่วงเดือนกรกฏาคม และคาดว่าจะสามารถเริ่มฉีดได้ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่มีการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ไปแล้วประมาณร้อยละ 70 และคาดว่าจะครบร้อยเปอร์เซ็นต์ในเดือนนี้ ส่วนบุคลากรด่านหน้าเนื่องจากที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้รับจัดสรรวัคซีนมาจำกัดจึงยังฉีดได้น้อยอยู่.

You may also like

เครือข่ายแรงงานภาคเหนือลั่นสู้ พร้อมรวมพลังทวงคืนความมั่งคั่งจากนายทุน

จำนวนผู้