สั่งคุมเข้มและไล่ล่ามือเผาป่าอช.ออบหลวง หลังไฟไหม้ป่าลุกลามกินพื้นที่วงกว้าง

สั่งคุมเข้มและไล่ล่ามือเผาป่าอช.ออบหลวง หลังไฟไหม้ป่าลุกลามกินพื้นที่วงกว้าง

สั่งคุมเข้มและไล่ล่ามือเผาป่าอช.ออบหลวง หลังไฟไหม้ป่าลุกลามกินพื้นที่วงกว้าง “พัชรวาท”ประสานทหารมาช่วยปูพรมในพื้นที่ หน.อุทยานฯประกาศปิดป่า ผู้ว่าฯกร้าวเจอให้จับอย่าอ้างไม่รู้ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขึ้น “ปั๊กเป้า”ฮ.ดับไฟปภ.สำรวจสภาพความสูญเสียพร้อมมอบนโยบายและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน

สถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 จังหวัดเชียงใหม่ยังเกิดไฟไหม้ป่าข้ามคืนอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ดาวเทียมจับจุดความร้อนรอบเวลา 02.20 น.จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนจำนวน 69 จุดในพื้นที่อำเภอฮอด 38 จุด,แม่แจ่ม 13 จุด,ดอยเต่า 6 จุด,จอมทอง 4 จุด,แม่แตง 3 จุด,สันทราย 2 จุด,พร้าว 1 จุด,แม่วาง 1 จุดและเชียงดาว 1 จุดส่วนรอบบ่ายเวลา 13.20 น.พบจุดความร้อนอีกจำนวน 87 จุดในพื้นที่อำเภอฮอด 31 จุด,แม่แจ่ม 13 จุด,พร้าว 8 จุด,จอมทอง 6 จุด,แม่ออน 6 จุด,หางดง 5 จุด,ดอยเต่า 4 จุด,แม่แตง 3 จุด,เชียงดาว 3 จุด,กัลยาณิวัฒนา 2 จุด,แม่วาง 2 จุด,อมก๋อย 2 จุดและไชยปราการ 2 จุด โดยบางพื้นที่รายงานจุดความร้อนที่เกิดขึ้นเป็นพื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิง

อย่างไรก็ตาม จุดความร้อนที่มากต่อเนื่องในพื้นที่อช.ออบหลวง อ.ฮอด ทำให้บ่ายวันเดียวกันนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ได้ประสานให้หัวหน้าอุทยานฯออบหลวงออกประกาศปิดป่า และได้สั่งการให้อำเภอนายอำเภอดอยเต่า นายอำเภอฮอด นายอำเภออมก๋อย และนายอำเภอแม่แจ่ม  นอ.จอมทองประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกอำเภอในเขตพื้นที่อุทยานฯให้ชัดเจนถึงประกาศนี้ โดยระบุว่าหากโดนจับกุมขึ้นมาอย่ามาอ้างว่าไม่รับรู้เรื่องประกาศห้ามเข้าอุทยานฯเด็ดขาด

และเมื่อเวลา 12.30 น. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่    นายจักรพันธุ์ ทองอ่ำ นายอำเภอฮอด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจเยี่ยมพื้นที่จุดตรวจผาแต้ว บ้านวังลุงใหม่ หมู่ 10 ตำบลหางดง อำเภอฮอด โดยรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันฯ ของพื้นที่อำเภอฮอด โดยรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายแนวทางปฏิบัติ และพบปะผู้นำชุมชน พี่น้องประชาชน รวมถึงมอบสิ่งของสนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และร่วมบินดับไฟกับอากาศยาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่อำเภอฮอด

ทางด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า จากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง จ.เชียงใหม่ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมากว่าสัปดาห์ โดยไฟป่าได้ขยายวงกว้างขึ้น ได้รับรายงานจากนายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวน 150 นาย รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าทิ้งน้ำดับไฟ แต่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เนื่องจากมีการลักลอบเข้ามาเผาพื้นที่ป่าเพิ่มอยู่ตลอด แม้ว่าอุทยานแห่งชาติออบหลวง จะได้ประกาศปิดป่าและห้ามเข้าพื้นที่อุทยานฯไปแล้วก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 มี hotspot หรือจุดความร้อน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จำนวน 21 จุด

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าที่รุนแรง จะอยู่ในบริเวณพื้นที่ผาดำ บ้านท่าเรือ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน มีความยากลำบากในการเข้าถึงโดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเดินเท้ากว่า 4 ชั่วโมง ในการเข้าถึงพื้นที่บริเวณจุดเกิดไฟป่า อีกทั้งอุทยานแห่งชาติออบหลวง ยังมีสภาพพื้นที่เป็นป่าเต็งรังถึง 70% ซึ่งเป็นป่าที่ง่ายต่อการติดไฟ  ประกอบกับภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงชัน ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความยากลำบาก เข้าถึงพื้นที่ได้ล่าช้า โดยได้รับรายงานว่าสาเหตุของการเกิดไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง เกิดจากการจุดไฟหาของป่า โดยเฉพาะผักหวานซึ่งมีราคาสูง

ได้รับรายงานจากนายกริชสยามฯ ว่าได้มอบหมายให้นายสมนึก ท้าวพา ผอ.ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า นำอาหาร ข้าวสาร น้ำดื่ม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสบียงทางอากาศ  ให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานดับไฟป่าได้อย่างต่อเนื่อง

โดยพล.ต.เอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้สั่งการให้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยกระดับการปฏิบัติการ โดยให้ไล่ล่ามือจุดไฟและดำเนินคดีกับผู้ที่เข้าไปเก็บหาของป่าทั้งหมด อีกทั้งให้เพิ่มกำลังสายตรวจปราบปรามจากอุทยานต่างๆ และประสานกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 เข้าปูพรมเพื่อไล่ล่ามือจุดอย่างเต็มกำลัง หลังจากนี้ใครเข้าไปเก็บหาของป่าดำเนินคดีหมด โดยนายอรรถพลฯ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ประสานนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันแล้ว

You may also like

บสย. รุกโมเดล “SMEs Digital Gateway” ปั้น 11 สาขาภูมิภาคสู่ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน

จำนวนผู้