ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาลงโทษจำคุกคดีเผาป่าดอยสุเทพ 10 ปีปรับ 4 ล้านกว่า

ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาลงโทษจำคุกคดีเผาป่าดอยสุเทพ 10 ปีปรับ 4 ล้านกว่า

ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาลงโทษจำคุกคดีเผาป่าดอยสุเทพเสียหาย 114 ไร่เป็นเวลา 10 ปีปรับ 4 ล้านกว่า จำเลยสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
วันที่ 25 พ.ค.63 ศาบจังหวัดเชียงใหม่ได้เผยแพร่คำตัดสินคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่เป็นโจทก์ ฟ้องนายโจ๊ก โช้ะ เป็นจำเลยในคดีเผาป่าดอยสุเทพ
ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดอยสุเทพและในเขตอุทยานแห่งชาติดอสุเทพได้รับความเสียหายจำนวน 114 ไรคิดเป็นค่าเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติจำนวน 4,419,578 บาท


ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
คงจำคุก 5 ปี ให้จำเลยชดใช้ค่เสียหายของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหาย เสียหายเป็น
เงิน 4,419,578 บาท แก่กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เนื่องจากการกระทำของจำเลย
เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบนิเวศน์ สิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงสุขภาพอนามัยของคนในสังคมโดยรวมนับเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษให้จำเลย


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 63 เวลาประมาณ 09.00 น. บริเวณป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ – ปุย และเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยสุเทพ – ปุย ห่างจากน้ำตกมณฑาธารไปทางทิศใต้ประมาณ 2 กม. หมู่ที่ 9 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายอุดม บุดดีค้า อายุ 55 ปี พนักงานพิทักษ์ป่าประจำอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ – ปุย ได้นำตัว นายโจ๊ะกี โซ๊ะ หรือ MR.JOKE SOE JEKEESU อายุ ๒๕ ปี สัญชาติ พม่า บัตรประจ้าตัวคน ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ที่ 4 ต.เริงราง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ส่งพนักงานสอบสวนสภ.ภูพิงค์ฯ ฐานความผิด เป็นคนต่างด้าวขัดค้าสั่งเจ้าพนักงานโดยการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมไม่ได้รับ อนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ โดยเดินทางจาก จว.สระบุรี มาที่ จว.เชียงใหม่ และได้กระท้ำการเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นหรือครอบครองป่าที่ได้ถูก แผ้วถางโดยไม่ได้รับอนุญาต เผาป่าหรือกระทำการใดอันเป็นการเสื่อมเสียแก่ป่าสงวนแห่งชาติ กระทำหรือละเว้น การกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่จากเดิม กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ รวมเนื้อที่ป่าที่ถูกไฟเผา จำนวน 114 ไร่ ความเสียหายอยู่ในระหว่างการประเมิน


ทั้งนี้ตามวันเวลาเกิดเหตุเจ้าพนักงานอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยชุดจับกุม ออก สืบสวนหาข่าวในพื้นที่หลังจากได้รับแจ้งว่ามีไฟไหม้ป่าในที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ – ปุย และเป็นป่าสงวนแห่งชาติ พบว่าไฟกำลังไหม้ป่าได้รับความเสียหายเป็นบริเวณ กว้างจึงช่วยกันดับไฟ และพบผู้ต้องหานอนอยู่ในที่เกิดเหตุ และพบว่าผู้ต้องหาได้จุดธูปปักลงพื้นดินเพื่อไล่ยุงแล้ว นอนหลับ ไฟจากธูปได้ไหม้ก้านธูปแล้วลุกลามไปติดใบไม้แห้งแล้วลุกลามไหม้ป่าเป็นบริเวณกว้าง เจ้าพนักงาน อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย จึงได้ตรวจยึดไฟแช็คแก๊ส ธูป เทียนไข บุหรี่ ของผู้ต้องหาที่พบในที่เกิดเหตุไว้เป็น ของกลาง จับกุมผู้ต้องหาแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

You may also like

เครือข่ายแรงงานภาคเหนือลั่นสู้ พร้อมรวมพลังทวงคืนความมั่งคั่งจากนายทุน

จำนวนผู้