ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำยกระดับดูแลสุขภาพประชาชนจาก PM2.5 เทียบเท่าการประกาศภาวะวิกฤติ ช่วยเร่งด่วน 5 อำเภอ ที่มีจุดความร้อนสูง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำยกระดับดูแลสุขภาพประชาชนจาก PM2.5 เทียบเท่าการประกาศภาวะวิกฤติ ช่วยเร่งด่วน 5 อำเภอ ที่มีจุดความร้อนสูง

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผย เชียงใหม่ยกระดับการดูแลสุขภาพประชาชนจาก PM2.5 เทียบเท่ากับการประกาศภาวะวิกฤติ ศชฝ.ชม. ระดมทีมแพทย์ดูแลสุขภาพประชาชน วางกรอบช่วยอำเภอ ที่มีจุดความร้อนสูงติด 5 ลำดับเร่งด่วน เผยเฝ้าติดตามสภาพอากาศ เอื้อขึ้นบินฝนหลวง

วันนี้ (30 มี.ค. 66) ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่ และการประชุมคณะกรมการจังหวัดเชียงใหม่ ประจำเดือนมีนาคม โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ว่าที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ สามารถควบคุมการเผา/จุดความร้อน ได้เฉลี่ยวันละ 50 จุด แต่ห้วงนี้จุดความร้อนได้สูงทะลุหลักร้อย ซึ่งอาจเกิดจากความเชื่อบางอย่างว่าจะต้องมีการเผาในห้วงนี้ อย่างไรก็ตาม ทุกอำเภอได้นำกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าพื้นที่ดับไฟ แก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง โดยพบว่าร้อยละ 90 สามารถดับได้ภายในหนึ่งวัน ทั้งนี้ ขอทุกหน่วยอย่าหมดกำลังใจ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด หากพื้นที่ใดต้องการขอรับการสนับสนุนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ หรือความช่วยเหลืออื่นใด ขอให้แจ้งมายังจังหวัดได้ทันที ซึ่งได้มีการเตรียมอากาศ กำลังพล พร้อมออกปฏิบัติการตลอดเวลา

จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ แต่มีการเผาอยู่ในลำดับที่ 6 ของพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยพื้นที่ที่มีควันเป็นจำนวนมาก ได้แก่ อำเภอเชียงดาว เวียงแหง ฝาง และแม่อาย ทั้งนี้ แม้จะมีเสียงเรียกร้องขอให้มีการประกาศภาวะวิกฤติ เพื่อให้มีการช่วยเหลือเพิ่มขึ้นนั้น หลายภาคส่วนได้ระดมความคิดเห็นร่วมกันและมีมติแล้วว่า หากมีการประกาศภาวะวิกฤติจะส่งผลกระทบกับหลายภาคส่วนโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก จังหวัดเชียงใหม่ (ศชฝ.ชม.) เพื่อยกระดับดูแลสุขภาพ ช่วยเหลือประชาชนเทียบเท่ากับการประกาศภาวะวิกฤติ โดยระดมความคิดเห็นกับทีมแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างดีที่สุด ซึ่งนับเป็นจังหวัดแรกในประเทศไทย ที่เดินหน้าเชิงรุกช่วยเหลือประชาชน พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ศชฝ.ชม. จะทำงานควบคู่ไปกับศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ที่หลังจากนี้จะได้ยกระดับมีการประชุมติดตามสถานการณ์แต่ละพื้นที่ในทุกวัน โดยอำเภอที่มีจุดความร้อนสูงติด 5 ลำดับ จะต้องชี้แจงสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขหรือการขอรับความช่วยเหลือ ขณะที่การขึ้นบินทำฝนหลวงยังคงเฝ้าติดตามสภาพอากาศในทุก ๆ วัน และดำเนินการอย่างต่อเนื่องเมื่อความชื้นในอากาศมีเพียงพอ

You may also like

มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย สานโอกาส สร้างรอยยิ้ม ผ่านการมอบทุนการศึกษา ประจำปี 2566 แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาใน 4 ภูมิภาคทั่วไทย

จำนวนผู้