“ประสิทธิ์ ครุธาโรจน์” บนเส้นทางนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย

“ประสิทธิ์ ครุธาโรจน์” บนเส้นทางนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย

- in Exclusive, headline

นับตั้งแต่คณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ.2475 มาถึงปัจจุบัน เป็นเวลามากกว่า 88 ปี แต่ประชาธิปไตยไทยยังคงเป็นแบบลุ่มๆ ดอนๆ บางครั้งหุบใบ บางเวลาเหลือครึ่งใบ และนานๆ ครั้งถึงจะเบ่งบาน การต่อสู้และเรียกร้องประชาธิปไตยจากกลุ่มต่างๆ จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งล่าสุด มี 3 ข้อเรียกร้องหลัก คือให้หยุดคุกคามประชาชน ให้รัฐบาลยุบสภา และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ หรือเจมส์ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งในเยาวชนนักกิจกรรมที่ยืนอยู่ในแถวหน้า เพราะเกือบทุกเวที เขาคือผู้ปราศรัยที่คุ้นหน้าคุ้นตากับเหล่าผู้ชุมนุมเป็นอย่างดี เริ่มจากเวทีในเชียงใหม่ ลำปาง จนก้าวสู่เวทีใหญ่ในกรุงเทพฯ หลายหนและเป็นธรรมดาของนักรบที่ย่อมมีบาดแผล จากปี 2561 มาถึงปัจจุบัน เจมส์ตกเป็นผู้ต้องหาแล้วหลายคดี เริ่มจากกิจกรรมรวมพลคนอยากเลือกตั้ง หน้า มช. ในเทศกาลแห่งความหมดรัก 14 ก.พ.2561 เขาถูกฟ้องร่วมกับพวกอีก 5 คน ในคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่3/2558 ชุมนุมทางการเมือง 5 คนขึ้นไป และใช้เครื่องขยายเสียงกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลวินิจฉัยว่า เนื่องจากมียกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ไปก่อนหน้าที่จะมีการตัดสิน จำเลยจึงไม่มีความผิด แต่ในการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับคนละ 200 บาท จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือปรับคนละ 100 บาทต่อด้วยคดียุยงปลุกปั่น ม.116, พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ กรณีชุมนุมคนอยากเลือกตั้งหน้าองค์การสหประชาชาติ ชุด UN62 ซึ่งคดีนี้ถูกฟ้องพร้อมกัน 10 คน และศาลนัดสืบพยานโจทก์ 32 นัด จำเลย 18 นัด จะเริ่มสืบพยานโจทก์นัดแรก 19 ม.ค.64 และสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย วันที่ 3 มี.ค.64 ส่วนอีก 2 คดี ที่ตามมาติดๆ คือ คดีจัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุมก่อน 24 ชั่วโมง ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จากการชุมนุมแฟลชม็อบ #ไม่ถอยไม่ทน ที่ข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 (ในฐานะ Admin Page สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย) ขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาล รอการตัดสิน และคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.โรคติดต่อ พร้อมกับพวกอีก 3 คน จากการชุมนุมที่ข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.63 ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของอัยการกระนั้น เจ้าตัวก็ย้ำหนักแน่นว่าไม่เสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้ว แม้จะถูกดำเนินคดี เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่สามารถกระทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องลุกขึ้นทวงสิทธิของตนเอง ซึ่งผลที่มองเห็นไม่ใช่แค่ประสบการณ์ของนักกิจกรรม หากยังทำให้วีรชนที่เคยถูกลืมเลือนไปจากสังคม กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง เช่น ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ที่กระทำอัตวินิบาตกรรม หลังขับรถแท็กซี่พุ่งชนรถถังของคณะรัฐประหารที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อประท้วงรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ.2549 นับว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาไม่ได้สูญเปล่า และแน่นอนว่าทำให้ไฟของนักสู้รุ่นหลังยังคงลุกโชนต่อไปแต่กรุงโรมมิได้สร้างเสร็จภายในวันเดียวฉันใด การต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยก็เป็นฉันนั้น ทุกอย่างต้องใช้เวลา ที่ยังระบุไม่ได้ว่าจะนานแค่ไหน ซึ่งเจมส์ย้ำว่าภายในปีเดียวไม่สามารถเห็นผลชัดเจน การยกเลิก ส.ว.และยุบสภา ต้องใช้เวลาอย่างน้อยที่สุดก็ 2-3 เดือน การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มีขั้นตอนและระยะเวลาเป็นปีๆ ยิ่งเรื่องคุกคามประชาชน ทุกวันนี้ก็ยังตามคุกคามกันอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มนักกิจกรรม ติดตามทั้งที่บ้าน สถานศึกษา พื้นที่ชุมนุม และในชีวิตประจำวัน จนครอบครัวและบุคคลรอบข้างเป็นห่วง ทั้งด้านความปลอดภัยในชีวิต สวัสดิภาพ และเสรีภาพ คอยเตือนให้ระมัดระวังในการเดินทาง การใช้ชีวิต ให้พยายามหลีกเลี่ยงการเช็คอินสถานที่ต่างๆ ลงในสื่อโซเชียล เป็นต้นเจมส์ ทิ้งท้ายว่า เจอมาหลายคดี แรกๆ ก็รู้สึกเหนื่อย โดดเดี่ยว แต่พอสู้แล้วไม่ใช่เลย มีแนวร่วมเกิดขึ้นมากมาย เช่น จากเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิมนุษยชน ช่วยให้มีกำลังใจ และพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ต่อไป ทั้งในเวทีภูธร และส่วนกลาง เพียงแต่บางจังหวะอาจรู้สึกรำคาญบ้าง เพราะกระทบกับชีวิตประจำวัน อย่างบางครั้งเจ้าหน้าที่นัดไปรายงานตัวในคดีต่างๆ ตรงกับวันที่มีเรียน และอาจารย์เช็คชื่อ ก็ต้องลา ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีสุดท้ายที่กำลังจะจบแล้วสำหรับอนาคต เนื่องจากเป็นคนที่ติดคดีความ (บางคดียังไม่เสร็จสิ้น) การทำงานในหน่วยงานตามปกติคงเป็นเรื่องยาก นอกจากทำงานการเมือง แต่ไม่อยากเป็น ส.ส. ชอบอยู่เบื้องหลัง คิด วางแผน น่าจะเหมาะกับงานเลขา หรือทีมงานที่ปรึกษามากกว่า.

You may also like

“ส.ว.ก๊อง”ลั่นลงสมัครป้องกันแชมป์สมัยหน้าในนามพรรคเพื่อไทย แย้มครั้งนี้ “ทักษิณ” ขอเป็นผู้ช่วยหาเสียง พร้อมลงพื้นที่ 25 อำเภอ

จำนวนผู้