ท่าอากาศยานเชียงใหม่ผนึกกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉิน กรณีเหตุขู่วางระเบิดอากาศยานและอากาศยานอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ผนึกกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉิน กรณีเหตุขู่วางระเบิดอากาศยานและอากาศยานอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉิน กรณีเหตุขู่วางระเบิดอากาศยานและอากาศยานอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง โดยถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง เพื่อซักซ้อมและทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติ รับมือหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน


เมื่อดึกคืนวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เวลา 23.30 น.เรืออากาศเอก ธรรมาวุธ นนทรีย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานมาตรฐานท่าอากาศยานและการบิน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉินท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหารระดับสูงของ ทอท. ผู้แทนจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยานในราชอาณาจักร และหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ให้เกียรติในพิธีเปิดและร่วมสังเกตการณ์การฝึกซ้อม
การฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉินดังกล่าว ท่าอากาศยานเชียงใหม่จัดขึ้นตามข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 14 และ ฉบับที่ 37 ที่กำหนดให้สนามบินที่เปิดให้บริการสาธารณะ ต้องจัดทำแผนฉุกเฉินสนามบินเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีต่างๆ และต้องทำการฝึกซ้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินเต็มรูปแบบ (Full Scale Emergency Exercise ) ตามแผนฉุกเฉินสนามบิน อย่างน้อย 2 ปีครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวน ทดสอบ และปรับปรุงแผนฉุกเฉินให้มีความเป็นไปปัจจุบัน อีกทั้งเป็นโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกิดความคุ้นเคยในการปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ ที่กำหนดในแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวางแผน ควบคุม สั่งการ ติดต่อสื่อสาร รับทราบถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้เกิดประสบการณ์ในการรับมือต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม เกิดความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างถูกต้อง โดยคำนึงถึงการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตและคงการปฏิบัติการบินไว้อย่างต่อเนื่อง

ด้านนายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า การฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉินในปีนี้ ได้กำหนดการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินแบบเต็มรูปแบบ (Full Scale Emergency Exercise) บทที่ 1 เรื่อง อากาศยานอุบัติเหตุ และแผนเผชิญเหตุด้านการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน บทที่ 3 เรื่องการขู่วางระเบิดอากาศยาน “ภายใต้รหัสฝึกซ้อม CEMEX-23” โดยใช้สถานการณ์สมมติที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเหตุการณ์อากาศยานประสบเหตุไถลออกนอกทางวิ่ง รวมถึงแผนการเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ขัดข้อง ทั้งนี้ได้กำหนดสถานการณ์อากาศยานถูกขู่วางระเบิด ขณะเดินทางออกจากประเทศต้นทางมายังท่าอากาศยานเชียงใหม่ และขอนำอากาศยานลงฉุกเฉินแต่เกิดเหตุลื่นไถลออกข้างทางวิ่งระหว่างทำการบินลง มีผู้ได้รับเจ็บ และอากาศยานเกิดความเสียหายไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกจากทางวิ่งได้ทันที ส่งผลต่อการให้บริการผู้โดยสาร และต้องใช้ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายเป็นท่าอากาศยานสำรอง โดยต้องใช้เวลาถึง 8 วันในการกอบกู้สถานการณ์


การฝึกซ้อมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ หน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการบินของประเทศ เครือข่ายทางการแพทย์ หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะกรรมการธุรกิจการบินเชียงใหม่ (Airline Operators Committee : AOC) โดยนอกจากจะสนับสนุนอากาศยาน รถดับเพลิงและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการฝึกซ้อมแล้ว ยังได้จัดบุคคลากรเข้าร่วมฝึกซ้อม ครบตามองค์ประกอบที่กำหนดไว้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ยังเป็นการสร้างความ “มั่นใจ (Safety and Security)” คือเป็นเลิศในมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของ ทอท.อีกด้วย

You may also like

กลุ่ม Chiang Mai Pride จับมือร่วมกับ Asset World Corporation (AWC) และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงาน “Chiang Mai Colourful Pride Month 2024” เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และเชื่อมโยงการท่องเที่ยว

จำนวนผู้