ทีมดับไฟอ.แม่วางพลัดตกเขาขาหัก กองทัพภาคที่ 3 ยอมรับการเผาเป็นวัฒนธรรมแก้ยากทำค่ามลพิษพุ่ง

ทีมดับไฟอ.แม่วางพลัดตกเขาขาหัก กองทัพภาคที่ 3 ยอมรับการเผาเป็นวัฒนธรรมแก้ยากทำค่ามลพิษพุ่ง

สถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นpm2.5 ยังวิกฤต ภาคเหนือพบจุดความร้อนพุ่งสูงถึง 1,466 จุด แม่ฮ่องสอนสูงสุด 466 จุดขณะที่เชียงใหม่พุ่งสูงถึง 338 จุด ชุดดับไฟอ.แม่วางเร่งดับไฟที่ลามจากป่าสงวนเกิดอุบัติเหตุพลัดตกเขาขาหัก ขณะที่กองทัพภาคที่ 3 ยอมรับวัฒนธรรมการเผาแก้ยากทำมลพิษปกคลุมทั่ว

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 ยังรุนแรงและปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ทำให้ค่าตรวจวัดคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน อย่างไรก็ตามยังพบว่าในหลายพื้นที่มีการลักลอบเผาป่าเกิดขึ้น โดยจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจจับได้ในเวลา 13.54 น.วันที่ 8 มี.ค.จังหวัดเชียงใหม่ได้พบจุดความร้อนสูงถึง 203 จุด กระจายในพื้นที่ 15 อำเภอ 36 ตำบล โดยเป็นพื้นที่ที่ขอบริหารเชื้อเพลิงเพียง 6 จุดเท่านั้น

ต่อมาในเวลา 15.00 น.ได้รับแจ้งจากนายอุดร ฟุ่งละ กำนันตำบลแม่วิน อ.แม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ว่านายรานนท์ ธนุอุ่น ตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายรักษาความสงบ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่า ตกเขาขาขวาหัก ทีมงานดับไฟดังกล่าวได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแม่วางแล้ว ทั้งนี้อำเภอแม่วางได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 จังหวัดเชียงใหม่ว่าในพื้นที่เกิดจุดความร้อน 3 จุด ซึ่งเป็นพื้นที่ลามจากจุดป่าสงวนเมื่อตอนดึกที่ผ่านมา

่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ผศ.ดร.ชาคริต โชตอมรศักดิ์ หัวหน้าคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงสภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ในเรื่องของการดำเนินการป้องกันฝุ่นควัน ไฟป่า หมอกควันที่ต้องแก้ไข ถ้ามองมิติในเรื่องของอากาศ ปัญหาเรื่องของฝุ่นควัน PM 2.5 ปัญหามลพิษทางอากาศ เป็นปัญหาในระดับภูมิภาคที่จำเป็นต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ผศ.ดร.ชาคริตฯ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาภายในจังหวัดซึ่งก็แก้ได้ระดับหนึ่ง ต้องมองปัญหาในหลายๆ มิติ พยายามที่จะบริหารจัดการ เนื่องจากฝุ่นมาจากแหล่งกำเนิดหลายๆ แห่ง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมของมนุษย์หลายๆ กิจกรรม และแหล่งกำเนิดที่เกิดจากการเผาในที่โล่ง ซึ่งก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่สำคัญ หลายจังหวัดมีมาตรการในการแก้ไขมีการบริหารจัดการการเผาในที่โล่งรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ด้วย

ทางด้านพล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ( vtc ) โดยกล่าวว่า  กล่าวว่า พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือตอนบนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดลำปาง ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 และค่า AQI สูงขึ้น เนื่องจากสภาพพื้นที่และสภาพอากาศประกอบกับเกิดการเผาในพื้นที่ เพื่อเตรียมพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งเป็นวิธีที่จะจำกัดวัชพืชได้ง่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายมาก ที่สำคัญการเผากลายเป็นวัฒนธรรมที่ทุกคนสามารถทำได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการบุกรุกใช้พื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์เพื่อเป็นที่ทำกิน ประกอบกับแต่ละจังหวัดมีมาตรการการบริหารจัดการเชื้อเพลิงอยู่ แต่ประชาชนไม่ได้ทำตามแผนที่วางไว้ สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาอย่างต่อเนื่อง

You may also like

อบจ.เชียงใหม่​ ร่วมภาคีเครือข่าย เฉลิมพระเกียรติ​ในหลวง ร.10 ครบ 6 รอบ “ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ที่หนองเขียว”

จำนวนผู้