กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพของภาคท่องเที่ยวในการให้บริการต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม(Muslim Friendly)

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพของภาคท่องเที่ยวในการให้บริการต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม(Muslim Friendly)

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพของภาคท่องเที่ยวในการให้บริการต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนา Soft Power เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากร สถานประกอบการ และรูปแบบการจัดบริการที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุลลิม (Muslim Friendly)

วันที่ 17 ก.ย.68 ที่โรงแรมฟูราม่าเชียงใหม่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพของภาคท่องเที่ยวในการให้บริการต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนา Soft Power เพื่อเป็นต้นทุนพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนจัดขึ้น โดยมีนายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่  พร้อมด้วยคณะทำงานกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอน 1 หัวหน้าหน่วยงาน ส่วนราชการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและผู้ประกอบการเข้าร่วมในพิธีอบรมฯดังกล่าวจำนวนมาก

นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวรายงานถึงโครงการฯดังกล่าวว่า เนื่องด้วย กระแสการเปลี่ยนผ่านสู่การท่องเที่ยวมุสลิมยุคใหม่ ซึ่งเป็นแนวโน้มระดับโลก จากการสำรวจดัชนีการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมทั่วโลก ปี 2025 (Mastercard-Crescent Rating Global Muslim Travel Index) GMTI 2025 จะพบว่าตลาดมูสลิมทั่วโลกมี 1.9 พันล้านคน ธุรกิจท่องเที่ยวฮาลาล ประมาณ 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และมีการเติบโตของ Start Up ด้านมุสลิม Tech ในประเทศต่างๆ แล้วทั่วโลก

โดยจากการสำรวจประเทศไทยติดอันดับ Top 5 ของจุดหมายปลายทางของชาวมุสลิมในประเทศที่ไม่ใช่มุสลิมและเมื่อมาวิเคราะห์ศักยภาพในจังหวัดเชียงใหม่เองมีประชากรมุสลิม กว่า 60,000 คน มีมัสยิดกว่า 20 แห่ง  มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมุสลิมอีกกว่า 500 แห่ง ถ้ารวมทั้งกลุ่มจังหวัดก็จะมีเพิ่มเติมอีกจำนวนมากซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงไหม่ ลำพูน ลำปางและแม่ฮ่องสอน) ที่สอดคล้องกับกระแสการท่องเที่ยวกลุ่มมุสลิมทั่วโลก หลายๆ ประเทศพัฒนาไปอย่างมาก หากจังหวัดเชียงใหม่สามารถรองรับตลาดการท่องเที่ยวกลุ่มมุสลิมได้ ก็จะสร้างเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้อย่างมีคุณค่าและมูลค่าที่สูงขึ้น

ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเราเคยเจอกับคำถามที่ว่า “คุณเคยไปเที่ยวแล้วหามัสยิดไม่เจอไหม?” “คุณเคยหิวแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นอาหารฮาลหรือไม่” ความท้าทายเหล่านี้สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นที่มา ทำให้ จังหวัดเชียงไหม่ได้เกิดแนวคิดและได้ดำเนินการจัดของการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มศักยภาพของภาคท่องเที่ยวในการให้บริการที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมสลิม “Muslim-Friendly Tourism” เพื่อสอดรับกับนโยบายประเทศไทยในการสร้างแบรนด์ Thailand Muslim Friendly ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการขับเคลื่อน Soft Power ด้านมุสลิมของพื้นที่จากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากร สถานประกอบการ และรูปแบบการจัดบริการที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุลลิม (Muslim Friendly Hospitality Services) รวมถึงเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของเมือง และพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อการบริหารจัดการและการให้บริการที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุสลืม “Mustirn-Frendly Toursm”เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสิ่งอำนวยความสะดวกในการรองรับกิจกรรมท่องเที่ยวมุสลิม และต่อยอดในการสร้างแบรนด์ “Thailand Muslim Friendly”

โครงการ ดังกล่าวจะประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย การฝึกอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพของภาคท่องเที่ยวในการให้บริการต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม และ การจัดการประชาสัมพันธ์เส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม จำนวน 2 เส้นทาง เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน และลำพูน-ลำปาง

ทางด้านนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า แค่การเพิ่มการเล่าเรื่องในธุรกิจบริการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งท่องเที่ยวหรืออาหารที่จะสร้างสตอรี่แล้ว ยังสามารถเพิ่มรายได้และยกระดับราคาได้อีกด้วย ดังนั้นจึงอยากให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนได้ตระหนักในเรื่องดังกล่าว เมื่อสินค้าและบริการมีมาตรฐาน ผู้ประกอบการเข้าใจเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีของพี่น้องมุสลิมแล้ว การสื่อสารให้ตรงจุุดก็เป็นสิ่งสำคัญด้วย โดยหวังว่าตลอดช่วงของการอบรมนี้จะสามารถสร้างแนวทางและพัฒนาสถานประกอบการท่องเที่ยวให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและกิจการที่พี่น้องมุสลิมได้ไปท่องเที่ยวและใช้จ่ายเงินในพื้นที่ได้สำเร็จ.

You may also like

ทต.สันปูเลยทุ่มงบฯ4.32 แสนบาท สร้างสนามเด็กเล่นในร่มสร้างพัฒนาการเด็กปฐมวัยโดยใช้แนวคิด Learning through Play

จำนวนผู้