เชียงใหม่ – 36 ผู้ต้องหา ขึ้นโรงพัก สภ.เมืองเชียงใหม่ รับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน –พ.ร.บ.โรคติดต่อ จากการชุมนุมท่าแพ 29 ก.ค.63 และ เดินเท้าจากหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์มา สภ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อ 17 พ.ย.63 ทนายความยันทุกคนพร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่กองเชียร์จัดแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทั้งสาดสี ตีเกราะ เคาะหม้อ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.พ.64 นักวิชาการ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกลุ่มคนเสื้อแดง เดินทางไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อเข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียกในข้อหาความผิดตาม พรก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ กรณีเข้าร่วมชุมนุมแฟลชม็อบ ที่ลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.63 ที่ผ่านมา จำนวน 37 คน ขณะเดียวกันมีบางคนถูกหมายเรียกเพิ่ม จากการเดินเท้าจากหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์-สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อแจ้งความกรณีเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายม็อบที่แยกเกียกกาย กทม. เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา ทำให้จำนวนผู้ต้องหาที่ถูกหมายเรียกทั้งหมด มีถึง 40 คน
โดยการเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้ มีทีมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเข้าร่วมในกระบวนการรับทราบข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนหลายสิบคนที่มาร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการแสดงศิลปะสาดสีบริเวณหน้าโรงพัก และมีการตีเกราะ เคาะหม้อเพื่อส่งเสียงที่สื่อถึงการขับไล่สิ่งชั่วร้าย รวมถึงเดินกระสอบ ท่ามกลางการดูแลความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ขอความร่วมมือให้งดกิจกรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้ถนน และงดกิจกรรมที่สร้างความสกปรกให้กับพื้นที่สาธารณะ แต่กิจกรรมยังคงดำเนินต่อไปจนจบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กกั้นพื้นที่สำคัญในโรงพักเพื่อป้องกันความวุ่นวาย และอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหา และทนายความ เข้าไปภายในอาคาร
นายสุมิตรชัย หัตถสาร ผอ.ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น และทนายความด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ผู้ถูกหมายเรียกได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเกือบครบแล้ว เหลือเพียง 4 คน ซึ่งน่าจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 17 ก.พ. 64 โดยทั้งหมดจะให้การปฏิเสธ และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนแนวทางต่อสู้คดีต้องดูข้อเท็จจริงประกอบ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมานานแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการเข้ารายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งได้เปิดให้ผู้ถูกหมายเรียกทั้งหมดเข้ารับทราบข้อหาได้ในวันนี้และพรุ่งนี้ และจะมีการสอบสวนเบื้องต้นก่อนปล่อยตัวทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข หลังจากนี้จะทยอยนัดหมายเข้าสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยคดีนี้ได้จัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้ทั้งหมด 30 นาย เพื่อสอบสวนตามกระบวนการ
ศ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ เผยว่า การออกหมายเรียกครั้งนี้ ถือยุทธวิธีของฝ่ายรัฐ ที่จะเก็บ หรือสร้างน้ำหนัก สร้างภาระให้กับกลุ่มคนที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้นำ เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ค่อนข้างกระตือรือร้นกว่าคนอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวที่น้อยลง แต่ในความเป็นจริงจะได้ผลตามที่ต้องการไหม ตนไม่ค่อยแน่ใจ เพราะถ้าย้อนกลับไปดูว่ากลุ่มคนที่ถูกเรียกว่าแกนนำในเวลานี้ จำนวนมากเป็นแค่ผู้มาร่วมชุมนุม และมีโอกาสได้ขึ้นปราศรัย พอปราศรัยแล้วก็ถูกมองว่าเป็นแกนนำ ดังนั้นแกนนำจึงเกิดขึ้นได้อีกเรื่อยๆ
“ส่วนโอกาสที่สถานการณ์จะลุกลามกลายเป็นความรุนแรงนั้น ไม่ได้เกิดจากผู้ชุมนุมแน่นอน เพราะผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ และไม่มีใครโง่ใช้ความรุนแรงสู้กับคนที่มีอาวุธอยู่เต็มมือ ต้องถามฝ่ายผู้มีอำนาจในเวลานี้มากกว่าว่าจะใช้ความรุนแรงไหม” ศ.นิธิ กล่าวย้ำ.

