ผู้ว่าฯเชียงใหม่สั่ง 25 อำเภอเปิดปฏิบัติการ “รวมพลังอาสาดับไฟเพื่อลมหายใจของคนเชียงใหม่” จัดชุดอาสาดับไฟรวมตัวหน้าที่ว่าการอำเภอเตรียมพร้อมออกปฏิบัติงานทันที ขณะที่ “รองฯท็อป”ลงพื้นที่ อ.ฮอด เป็นประธานปล่อยแถว หวังจะลด Hot Spot เพื่อให้ค่าคุณภาพอากาศขยับดีขึ้น ขณะที่ประชาชนและนักวิชาการตำหนิวิธีการฉีดพ่นน้ำแสดงเชิงสัญลักษณ์ไม่มุ่งแก้ปัญหาจริงจัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ยังวิกฤตต่อเนื่อง โดยสภาพท้องฟ้ามีสีขาวขุ่นมัวทัศนวิสัยแม้ยังมองเห็นได้ในระยะ 1 กม.แต่ประชาชนรู้สึกได้ว่าสภาพอากาศแย่เนื่องจากรู้สึกแสบตา แสบจมูก ระคายเคืองคอและน้ำมูกไหล ในขณะขณะที่ช่วงเช้าวันนี้(9 มี.ค.) มทบ.33 ได้จัดกิจกรรม ” โครงการพ่นละอองน้ำและล้างทำความสะอาดถนนเพื่ออากาศสดใสเชียงใหม่ไร้ฝุ่นควัน ” ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ อ.เมือง เชียงใหม่โดยมีหน่วยงานร่วมกิจกรรมประกอบด้วย มทบ.33, ร.7 , ร.7 พัน.1, พัน.สต.กส.ทบ., ปภ.จว.ช.ม. และเทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมรถบรรทุกน้ำ 12 คัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขตเมืองเชียงใหม่
ทางด้านนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้มีหนังสือสั่งการให้ทั้ง 25 อำเภอเปิดปฏิบัติการ “รวมพลังอาสาดับไฟป่าเพื่อลมหายใจของคนเชียงใหม่” ป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่โดยมอบภารกิจตรวจสอบจุดความร้อน และภารกิจลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด ป้องกันการกระทำผิด การลักลอบเผาป่า ซึ่งเช้าวันนี้ทุกอำเภอได้ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวโดยมีส่วนราชการ กำนัน/ผญบ./ อุทยาน/ป่าไม้/เครือข่ายไฟป่าหมู่บ้าน/จิตอาสาเข้าร่วมและรายงานผลเข้าไปยังศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาฯของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านนายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “รวมพลังอาสาดับไฟเพื่อลมหายใจของคนเชียงใหม่” ประจำปี พ.ศ. 2564 โดยมี นายสิทธิ์ วงศ์ม่าน นายอำเภอฮอด นำหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอฮอด นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง หัวหน้าหน่วยงานป่าไม้ในพื้นที่ทุกหน่วยงาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ และ ชุดอาสาดับไฟป่าประจำหมู่บ้าน กว่า 600 คน ร่วมกิจกรรม โดยกล่าวว่า การจัดกิจกรรมเช่นนี้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งจัดพร้อมกันทั้ง 25 อำเภอ เนื่องจากสถานการณ์หมอกควันไฟป่าที่แม้ว่าในปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 ที่ผ่านมา จะลดลง แต่ค่าคุณภาพอากาศก็ยังค่อนข้างสูง ซึ่งสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนจากการมอง ค่า PM2.5 มีค่าที่สูง ประกอบกับจุดความร้อนหรือจุด Hot Spot สูงเช่นกัน ในวันนี้ (9 มี.ค.) จ.เชียงใหม่ มีจำนวนจุดความร้อนมากถึง 211 จุด สำหรับพื้นที่ อ.ฮอด เกิดขึ้นจำนวน 26 จุด
“การบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฝุ่นควันของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 เป็นต้นมา ได้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ โซนใต้ และโซนเหนือ ในพื้นที่โซตใต้ได้หยุดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงไปแล้ว แต่ว่าจุดความร้อน และเกิดการเผาไหม้ซึ่งเป็นภาพจากดาวเทียมปรากฏที่ศูนย์บัญชาการฯ อย่างต่อเนื่องนับแต่ที่ไม่ให้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ในขณะเดียวกันในพื้นที่อำเภอโซนเหนือก็มีจุดความร้อนมีการเผาไหม้เช่นกัน” รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า เหตุปัจจัยที่ยังมีจุดความร้อนเกิดขึ้นมากมายเช่นนี้เองจึงเป็นเหตุที่ทำให้จังหวัดเชียงใหม่ต้องจัดให้มีกิจกรรมที่จะสร้างความเข้าใจ สร้างความร่วมมือให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นในระดับพื้นที่ในทุกอำเภอ นอกจากนี้ยังจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าเชียงใหม่เองยังมั่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันอย่างต่อเนื่องถึงในระดับพื้นที่
“สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือเรื่อง ลม สภาพอากาศ ที่สามารถพัดพาเอาฝุ่นละอองจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง แม้ว่าบางพื้นที่แทบจะไม่มีจุดความร้อนแต่ค่าฝุ่นละอองมีค่าที่สูงมาก ประการนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งต้องยอมรับ แต่เรื่องที่ระดับพื้นที่ต้องทำคือ การบริหารจัดการจุดความร้อนในพื้นที่ กล่าวคือ เมื่อเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ต้องเร่งดำเนินการควบคุม ต้องเข้าไปเร่งดับโดยเร็ว ซึ่งเป็นช่วงของการแก้ไขปัญหา และต่อไปก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ประการนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ เป็นการสร้างจิตสำนึกให้แก่พี่น้องประชาชนในการที่จะให้ตระหนักถึงสิ่งที่จะกระทบต่อสุขภาพ” นายรัฐพล กล่าว
