แม่ทัพภาคที่ 3 ขึ้นฮ.ดูพื้นที่ไฟป่าลำปาง จี้ทุกฝ่ายลากตัวมือเผามาลงโทษ พร้อมให้กรมป่าไม้ใช้ประกาศห้ามเข้าเขตป่าเด็ดขาด หวังควบคุมสถานการณ์หมอกควันที่ค่าpm10 เกินค่ามาตรฐานถึง 17 วัน หวั่นกระทบช่วงสงกรานต์นักท่องเที่ยวเมินขึ้นเหนือ ขณะที่อุทยานฯดอยสุเทพฯจับมือเผาดำเนินคดีหลังมีผู้ชี้เบาะแส
จากสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือที่ส่อเค้าวิกฤตเนื่องจากมีบางวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนเกินค่ามาตรฐานทุกจังหวัด โดยเฉพาะที่จังหวัดลำปางซึ่งค่าตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่เกินค่ามาตรฐานต่อเนื่องมาถึง 17 วัน
เมื่อวันที่25มีนาคม2560 เวลา10.30 น.พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในระดับภาค เป็นประธานในการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดลำปาง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง,รองผวจ.ลำปาง,นายคมสัน สุวรรณอัมพา ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ทั้งนี้นับตั้งแต่เข้าสู่ช่วง “60 วันห้ามเผาเราทำได้” จังหวัดลำปางพบค่าตรวจวัดคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานมาอย่างต่อเนื่องรวมเป็นระยะเวลาถึง 17 วันแล้ว
ทั้งนี้ประเด็นสำคัญในการประชุมร่วมกันครั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เน้นย้ำเกี่ยวกับช่วงนี้ซึ่งใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจะขึ้นมาภาคเหนือ จึงขอให้ทุกภาคส่วนเร่งขจัดปัญหาหมอกควันเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการขึ้น-ลง ของเครื่องบิน นอกจากนั้นยังกำชับให้มีการกวดขัน ลาดตระเวนและสืบสวน สอบสวนหาผู้ที่จุดไฟเผาป่าอย่างเข้มข้นและถูกตัวตนชัดเจน
นอกจากนั้นยังขอให้คณะกรรมการทุกฝ่าย(War Room) ให้ร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ทั้งนี้เนื่องจากพบปัญหามีผู้จุดไฟเผา แต่ไม่สามารถจับตัวผู้จุดได้(ไม่พบขณะจุด) โดยมอบให้กรมป่าไม้พิจารณาข้อกฎหมายที่ใช้บังคับห้ามเข้าพื้นที่ป่า เพื่อเปิดช่องทางให้เจ้าหน้าทีตำรวจปฏิบัติการจับกุมสอบสวนได้
สำหรับสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือข้อมูลเมื่อ 25 มี.ค.จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนเฉลี่ย 24 ชม.มีค่าระหว่าง 69-168 ไมโครกรัมต่อลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง-มีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองลดลงกว่าวันก่อนหน้าเกือบทุกสถานี ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรฐานลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงของความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะเศษวัสดุการเกษตรและกิ่งไม้ใบหญ้า เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังให้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและวิธีป้องกันตนเองที่ถูกต้องให้กับประชาชน ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก ประชาชนทั่วไปให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากภาคราชการและหากเกิดการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์
อย่างไรก็ตามในวันที่ 25 มี.ค.พบค่าเฉลี่ยปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน 3 จังหวัดคือที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย วัดได้ 168 ไมโคกรัมต่อลบ.ม.ขณะที่ต.เวียง อ.เมืองเชียงรายวัดได้ 119 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.,ที่จังหวัดลำปาง 2 สถานีคือที่ต.พระบาท อ.เมืองลำปางวัดได้ 128 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.และที่ต.บ้านดง อ.แม่เมาะวัดได้ 141 ไมโครกรัมต่อลบ.ม. และที่ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอนวัดได้ 143 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.ซึ่ง 3 จังหวัดดังกล่าวค่า pm 10 มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยว่า หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ 2 (น้ำตกศรีสังวาลย์) ร่วมกับผู้นำชุมชนท้องถิ่น ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายตา อินเป็ง อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 17/2 หมู่ที่ 2 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากได้รับแจ้งจากผู้หวังดี แจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ว่า พบเห็นผู้ต้องสงสัยขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวพ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน จรว 329 เชียงใหม่ ออกจากพื้นที่บริเวณดอยกอม ซึ่งขณะนั้นเกิดเหตุไฟป่าและเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่า
หลังจากที่ได้รับแจ้งแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าเป็นจักรยานยนต์ ของนายตา อินเป็ง จึงได้เชิญมาสอบสวน ซึ่งนายตา อินเป็ง ได้ให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ว่า เป็นผู้จุดไฟเผาป่าเอง เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนง.สอบสวน สภ.หางดงลงประจำวันข้อหาเผาและทำลายทรัพยากรป่าไม้ ผิดพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ เวลา 19.00 น. ลงวันที่ 24 มี.ค 60 คดีอาญาที่ 127/60 พนง.สอบสวน ร.ต.อ.จักรพัฏดิ์ ทรงพูล โดยมีนายประดิษฐ์ มูลเอ้ย พนง.พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นผู้กล่าวโทษ ความเสียหายของรัฐอยู่ระหว่างการประเมิน.
