มช. เสริมทัพ จับมือกลุ่มนักลงทุนแถวหน้า EAC พร้อมลงทุนสตาร์ทอัพโปรแกรม Basecamp24 เร่งสร้างโอกาสการเป็นบริษัทชั้นนำในประเทศ และก้าวไปสู่ตลาดโลก

มช. เสริมทัพ จับมือกลุ่มนักลงทุนแถวหน้า EAC พร้อมลงทุนสตาร์ทอัพโปรแกรม Basecamp24 เร่งสร้างโอกาสการเป็นบริษัทชั้นนำในประเทศ และก้าวไปสู่ตลาดโลก

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) โดย อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STeP) ในฐานะผู้นำด้านการสร้างโปรแกรมบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ เดินหน้าสร้างประตูแห่งโอกาสให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2567 อุทยานวิทย์ฯ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท อองเทรอเพรอเนอ แอดไวเซอรี่ เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ “EAC” บริษัทชั้นนำด้านที่ปรึกษาครบวงจรสำหรับสตาร์ทอัพและนักลงทุนในประเทศไทย ณ NSP Exhibition Hall อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) เพื่อร่วมกันสร้างเส้นทางการเติบโตในธุรกิจกลุ่ม Startups และ SMEs รวมถึงระบบนิเวศทางด้านธุรกิจ (Startup Ecosystem) พร้อมเร่งศักยภาพและขีดความสามารถของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพให้พร้อมเติบโตออกสู่ระดับโลก

ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ รองอธิการบดี มช. กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีนโยบายในการสร้างกลไก และระบบนิเวศในการสนับสนุนธุรกิจอย่างเหมาะสมเพื่อสอดรับกับการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการสร้างผู้ประกอบการ (Entrepreneurial University) โดยมุ่งผลักดันสตาร์ทอัพในรั้วมหาวิทยาลัย ภายใต้โปรแกรม “builds” (CMU Startup & Entrepreneurial Platform) ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำงานวิจัยหรือเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยมาสร้างเป็นธุรกิจ ผ่านการ Spin-off พร้อมส่งไม้ต่อให้ “Basecamp24” โปรแกรมบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยีนวัตกรรมเริ่มต้น โดยมีอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มช. หรือ STeP หน่วยงานในสังกัดมหาวิทยาลัย คอยเป็นเสมือนพี่เลี้ยงนำทางในทุกเส้นทางการทำธุรกิจ ซึ่งไม่เพียงแค่ให้การดูแลนักศึกษาในมช. เท่านั้น โปรแกรมดังกล่าว
ยังสามารถรองรับเหล่าธุรกิจ Startup และ SMEs ในภาคเหนืออีกด้วย

รองอธิการบดี มช. ยังกล่าวต่ออีกว่า Basecamp24 ถือได้ว่าเป็นโปรแกรมที่ประสบความสำเร็จมากในการปั้นธุรกิจ Startups ในภาคเหนือ ทว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดที่ตั้งไว้ คือ ปูเส้นทางเพื่อพาธุรกิจ Startups และ SMEs เติบโตไปไกลถึงระดับโลก และสามารถแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นได้ ซึ่งยังต้องอาศัยการผลักดันจากหลายภาคส่วน และความร่วมมือกับ EAC ในวันนี้เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการเร่งการเติบโตของธุรกิจอย่างก้าวกระโดด และเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการได้เข้าถึงที่ปรึกษาธุรกิจที่มีศักยภาพระดับแนวหน้าของประเทศ สามารถเชื่อมโยงนักลงทุนกับผู้ประกอบการเพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจไปสู่
จุดหมายเดียวกัน

คุณวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการบริษัท อองเทรอเพรอเนอ แอดไวเซอรี่ เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา EAC มีนโยบายสนับสนุนธุรกิจ Startups และ SMEs เราจึงตั้งเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเหล่านี้มากขึ้น โดยการผนึกกำลังร่วมกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่งเสริมความสามารถให้กับผู้ประกอบการ ผ่านความเชี่ยวชาญอย่างครบครันทุกด้าน อาทิ ด้านการเงินการลงทุน ด้านธุรกิจ และด้านกฎหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การระดมทุนในตลาดทุน เตรียมตัวเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากหลายแหล่งอย่าง Venture Capital (VC) หรือ Corporate Venture Capital (CVC) ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อีกด้วย

ด้าน รศ.ดร.ปิติวัฒน์ วัฒนชัย ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) เผยว่า การบริหารจัดการระบบนิเวศทางธุรกิจที่เพียบพร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานนั้น มีส่วนสำคัญอย่างมากในการสนับสนุนผู้ประกอบการ โดยอุทยานฯ มีโครงสร้างพื้นฐานรายล้อมด้วยระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างสตาร์ทอัพ (Startup Ecosystem) อย่างพื้นที่สำหรับทำงาน (Startup Space) แบบเพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ไอเดีย (The Brick Series) พื้นที่สร้างสรรค์ตัวอย่างการขึ้นรูปชิ้นงาน (The Brick FABLAB) พื้นที่สำนักงาน (Office Space) ที่พร้อมรองรับสตาร์ทอัพในทุกระดับการเติบโต และเรามี “Basecamp24” พื้นที่สนับสนุนสตาร์ทอัพอย่างครบวงจร 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันได้ผลักดันให้มีการจัดตั้งบริษัท Startup ได้แล้วถึง 378 ราย และสร้างรายได้รวม 4,379 ล้านบาท พร้อมกันนี้อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่ และมุ่งมั่นที่จะผลักดันผู้ประกอบการให้มีศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจ เพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือให้เพิ่มขึ้น และขยายวงกว้างในประเทศต่อไป

You may also like

บสย. รุกโมเดล “SMEs Digital Gateway” ปั้น 11 สาขาภูมิภาคสู่ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน

จำนวนผู้