“คิงส์คัพ”ครั้งที่ 49 ไทยพบเลบานอน คู่เปิดสนามวันที่ 7 ก.ย.นี้เปิดจำหน่ายบัตรทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในราคาบัตร 100 และ 150 บาท

“คิงส์คัพ”ครั้งที่ 49 ไทยพบเลบานอน คู่เปิดสนามวันที่ 7 ก.ย.นี้เปิดจำหน่ายบัตรทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในราคาบัตร 100 และ 150 บาท

“คิงส์คัพ”ครั้งที่ 49 ไทยพบเลบานอน คู่เปิดสนามวันที่ 7 ก.ย.นี้ อบจ.เชียงใหม่เปิดจำหน่ายบัตรทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในราคาบัตร 100 และ 150 บาท ในวันที่ 1 ก.ย.สำหรับออนไลน์และ 3 ก.ย.สำหรับออฟไลน์

เมื่อวันที่ 16 ส.ค.66 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่,นาย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และนางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ”ครั้งที่ 49 ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเกียรติจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยครั้งนี้จะจัดการแข่งขันขึ้นในวันที่ 7 และ 10 กันยายน พ.ศ. 2566 ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี  โดยมีทีมนักกีฬาฟุตบอลจากประเทศอินเดีย,เลบานอน,ไทย,และสาธารณรัฐอิรักเข้าร่วมแข่งขัน

สำหรับการจับสลากแบ่งสาย ซึ่งจะเริ่มการแข่งขัน วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 17.30 น. ฟุตบอลทีมชาติไทยพบกับทีมชาติสาธารณรัฐเลบานอน และเวลา 20.30 น. ทีมชาติสาธารณรัฐอินเดีย พบกับทีมชาติสาธารณรัฐอิรัก

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ทางอบจ.เชียงใหม่ต้องขอบคุณสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย, หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้  สำหรับการจำหน่ายบัตรจะมีทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยบัตรราคา 100 บาทสำหรับอัฒจรรย์ไม่มีหลังคาและบัตรราคา 150 บาทสำหรับอัฒจรรย์มีหลังคา โดยการจำหน่ายบัตรทางออนไลน์จะเปิดจำหน่ายในวันที่ 1 กันยายนนี้ ส่วนออฟไลน์จะเปิดจำหน่ายที่หอประชุม 80 พรรษา ด้านหลัศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 3 กันยายนนี้ นอกจากนี้อบจ.เชียงใหม่ยังได้ติดตั้งจอโปรเจคเตอร์ 3-4 จุดเพื่อให้ผู้ที่พลาดการซื้อบัตรได้นั่งชมและเชียร์ฟุตบอล พร้อมกับมีรถจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะสร้างความสุข ความสนุกสนาน รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย.

You may also like

อบจ.เชียงใหม่​ ร่วมภาคีเครือข่าย เฉลิมพระเกียรติ​ในหลวง ร.10 ครบ 6 รอบ “ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ที่หนองเขียว”

จำนวนผู้