เหยื่อไฟไหม้สุสานช้างคลานยันไม่ย้าย-ขอบ้านใหม่ในพื้นที่เดิม

เหยื่อไฟไหม้สุสานช้างคลานยันไม่ย้าย-ขอบ้านใหม่ในพื้นที่เดิม

เชียงใหม่ (12 พ.ค.58) / ผู้ประสบภัยไฟไหม้สุสานช้างคลานรุดพบผู้ว่าฯ ยืนกรานไม่ย้าย-ขออยู่ในพื้นที่เดิม อ้างสะดวกต่อการเดินทาง ขณะที่พ่อเมือง เร่งให้รองผู้ว่าฯ–ผู้เกี่ยวข้อง ศึกษาข้อกฎหมายการใช้พื้นที่สาธารณะ ย้ำ อบจ.-เทศบาล พร้อมสร้างบ้านให้ ส่วนยอดเงินบริจาคก่อนปิดศูนย์ทะลุหลักล้านแล้วเมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 12 พ.ค. ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนชุมชนสุสานช้างคลาน ซึ่งถูกไฟไหม้ จำนวน 25 คน ได้เดินทางเข้าพบนายสุริยะ ประสาทบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ช่วยจัดหาที่อยู่อาศัยในพื้นที่เดิมที่ถูกไฟไฟไหม้ โดยยืนยันว่าไม่อยากจะย้ายไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากไม่สะดวกในการเดินทาง ทั้งการประกอบอาชีพและการไปโรงเรียนของบุตรหลานนายสุริยะ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับชาวบ้านแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวสั่งการให้นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าฯ ไปหารือกับทางอำเภอเมืองเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การเคหะแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะจัดหาที่พักอาศัยให้กับผู้ประสบภัยซึ่งเป็นคนยากจนแม้จะมาจากที่อื่น แต่ด้วยมนุษยธรรมและเป็นคนไทยด้วยกัน โดยให้แนวทางไปว่าจะหาที่ดินที่ราชพัสดุเพื่อจัดหาที่อยู่ใหม่ให้ในลักษณะเช่าอาศัย หรือสำรวจบ้านเอื้ออาทรที่เหลือขายหากผู้ประสบภัยครอบครัวไหนสนใจ และยังได้ให้ไปดูกฎหมาย ระเบียบการใช้พื้นที่สาธารณะซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอำเภอที่ดูแลอยู่ว่าอำนาจการอนุญาตอยู่ที่ใคร อยู่ที่กระทรวงมหาดไทยหรือผู้ว่าราชการจังหวัด“ทางชาวบ้านบอกว่าต้องการอยู่ในพื้นที่เดิม ซึ่งเป็นพื้นที่ของสุสานเป็นที่สาธารณะ ก็มอบหมายให้รองฯศุภชัยไปดูรายละเอียดแล้ว เพราะทางอบจ.และเทศบาลเองก็พร้อมที่จะสร้างบ้านให้ ส่วนเงินบริจาคที่ได้มาล้านกว่าบาทนั้นทางชุมชนสุสานช้างคลานก็บอกว่าฝากผู้ว่าฯไว้ก่อน ตอนนี้ที่พูดคุยกัน 25 ครัวเรือนที่ประสบภัยนั้น 22 ครอบครัวยืนยันแล้วว่าไม่มีที่อยู่อาศัยและต้องการบ้านพัก ส่วนอีก 3 ครอบครัวของรับเป็นเงินและจะไปอาศัยอยู่กับญาติ ซึ่งวันนี้ผมก็จะไปมอบเงินของ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ช่วยเหลือครอบครัวละ 2,000 บาทด้วย”ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและว่าเนื่องจากวันนี้ (12) จะมีการปิดศูนย์รับบริจาคและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งทางชาวบ้านเองบอกจะขอกางเต้นท์นอนที่เดิมไปก่อนในช่วงที่รอ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ามีการเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้วหรือยัง หากยังไม่เรียบร้อยก็ให้อยู่ในศาลาในสุสานช้างคลานไปก่อน ส่วนที่พักอาศัยต่อไปจะเป็นที่เดิมหรือที่ใหม่ก็จะเร่งให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว หลังจากดูเรื่องระเบียบกฎหมายให้ถูกต้องแล้ว.

You may also like

CEA – MUJI จับมือดันงานหัตถกรรมท้องถิ่นเชียงใหม่ ผลักดันผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ท้องถิ่นเข้าสู่ตลาดแบรนด์ระดับโลก

จำนวนผู้