จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ในชุมชนแออัดหัวฝาย ภายในสุสานช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อตอนดึกของคืนวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ (4 พ.ค.) ยังมีเพลิงคุกรุ่นอยู่เป็นบางจุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครเชียงใหม่ ต้องคอยฉีดน้ำอยู่ที่บริเวณที่เกิดเหตุ
ขณะเดียวกันนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผวจ.เชียงใหม่และทางผู้บริหารของเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งมีรองนายกเทศมนตรีและเลขานุการนายกเทศมนตรีรวมทั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีกำลังทหารจากกองพันพัฒนาภาค 3 และป.พัน 7 ที่ได้ระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เดินทางไปต่างประเทศ
นายชาตรี เชื้อมะโนชาญ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ชุมชนแห่งนี้มีชาวบ้านมาอาศัยอยู่นานแล้ว มีทั้งหมด 23 ครอบครัวที่มีทะเบียนบ้านและอีก 2 ครอบครัวไม่มีทะเบียนบ้านซึ่งมีคนอาศัยประมาณ 80 คน สาเหตุเพลิงไหม้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าต้นเพลิงมาจากบ้านของ นางอ้อย ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 50 ปี ภูมิลำเนาไม่ทราบแน่ชัด โดยนางอ้อยถูกไฟคลอกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ผู้ประสบภัยทั้งหมดที่ไม่มีญาติก็คงจะจัดให้พักที่ศาลาภายในสุสานไปก่อน และหากมีงานเผาศพก็คงต้องให้ไปสุสานข้างเคียงหรือขยับขยายอีกที และจะมีการหารือกันในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าต่อไปจะดำเนินการอย่างไร เพราะที่อยู่เดิมต้องยอมรับว่าเป็นที่ของสุสานและมีคนเข้ามาอาศัยอยู่แต่นานแล้วและมีเลขที่บ้านเกือบทั้งหมด
ทางด้านนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากคนที่มาอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้เป็นคนต่างถิ่นเข้ามาอาศัยในที่ดินสาธารณะ แต่อย่างไรก็ตามกำลังหาทางช่วยเหลืออาจจะเช่าที่และให้เทศบาลฯสร้างบ้านให้แข็งแรง และอีกแนวทางประสานกับทางการเคหะแห่งชาติว่ายังมีบ้านเหลือให้เช่าหรือไม่ แต่เบื้องต้นให้พักในศาลาไปก่อน และทางมูลนิธิสามัคคีการกุศลจะมาตั้งโรงอาหารประกอบอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัย
“แม้จะเป็นคนจนต่างถิ่นมาบุกรุกที่สาธารณะแต่ก็จะช่วยเหลือและจัดหาที่อยู่ให้เป็นหลักแหล่งและตามหลักมนุษยธรรม และเนื่องจากที่บริเวณนี้เป็นที่สาธารณะจะต้องมีการทำประชาคมว่าคนส่วนใหญ่จะยอมให้สร้างที่พักอาศัยหรือไม่ และส่วนหนึ่งให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาดูแลเรื่องการให้ความช่วยเหลือ เพราะมีทั้งชนบนพื้นที่สูง คนต่างด้าวและคนไทยที่มาจากถิ่นอิ่นด้วยเพื่อความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือ”ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
ขณะที่นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางอบจ.เชียงใหม่ก็จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการจัดหาวัสดุก่อสร้างบ้านให้เป็นที่พัก แต่ต้องดูก่อนว่าจะสามารถก่อสร้างในที่เดิมหรือไม่ แต่การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นคือการจัดหาอาหารมาให้ความช่วยเหลือชั่วคราว และตนพร้อมด้วยนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่จะใช้เงินส่วนตัวมอบให้ครอบครัวละ 1,000 บาทเป็นเบื้องต้น และให้เทศบาลฯนำรถสุขามาจอดให้บริการประชาชน
อย่างไรก็ตามในส่วนของความช่วยเหลือหลังจากมีการเผยแพร่ข่าวสารออกไปทางหน่วยงาน องค์กรและประชาชนต่างได้นำสิ่งของเครื่องใช้มาบริจาค ซึ่งมีทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค ส่วนทางเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มมาแจกจ่ายให้ทุกครอบครัวที่ประสบภัย และยังมีกำลังทหารจาก มทบ.33 ป.พัน 7 และกองพันพัฒนาส่งกำลังมาช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงมูลนิธิการกุศลต่างๆ ที่ได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มมาแจก พร้อมตั้งเต็นท์เลี้ยงอาหารให้กับผู้ประสบภัยด้วย.
