ที่หอประชุมเอนกประสงค์อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นายสุริยะ ประสาทบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้นำหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการสังกัดส่วนกลางที่มีสำนักงานประจำอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานภาคเอกชนทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมประกาศเขตนารมณ์ “ต่อต้านการทุจริต สร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง” อย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์แลประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต สร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง ซึ่งมีการถ่ายทอดสดจากตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลไปยังจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีได้ให้กล่าวคำสาบานด้วยว่าหากใครทุจริตคดโกงก็ขอให้มีอันเป็นไป
ทางด้านนายสุริยะ ประสาทบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ การดำเนินการต่อต้านการทุจริตและสร้างจิตสำนึกไม่โกงนี้ต้องทำให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด หน่วยงานต่างๆ ทุกหน่วยที่ต้องบริการเพื่อพี่น้องประชาชนขอให้เร่งดำเนินการให้เสร็จ รวดเร็ว ไม่ทอดเวลาและข้อสำคัญที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงการต่อต้านการทุจริตและไม่โกงนั้น หลักง่ายๆ คือ เงินทอนไม่มี ไม่เรียก ไม่รับ ไม่มีค่าอำนวยความสะดวกในระบบราชการ จึงขอฝากทุกหน่วย ทุกคนเพราะขณะนี้อยู่ในยุคปฏิรูป ต้องทำเพื่ออนาคตลูกหลานของเราๆ เสียโอกาสมามากแล้ว
ประเทศไทยมีพร้อมทุกอย่างเพียงยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขออย่าร่ำรวยขึ้นมาบนความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน หรือหาผลประโยชน์ส่วนตนเป็นสิ่งที่ย้ำเตือน และพูดถึงหน่วยงานที่มาตรวจสอบที่มีหลายหน่วย ถ้าหากถูกชี้มูลก็ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง ถ้าไม่ทุจริตก็เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร ความผิดพลาดในการทำหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าไม่เจตนาจะทุจริต ก็คงไม่ได้รับโทษ แต่ถ้าหากเจตนาก็คงต้องดำเนินการ ซึ่งการพูดร้อยครั้งไม่เท่ากับการปฏิบัติ ก็ฝากทุกคนให้ตระหนักถึงตรงนี้ด้วย
ภายหลังพิธีประกาศเจตนารมณ์ฯ นายสุริยะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการร้องเรียนเรื่องการทุจริต คอรัปชั่น ซึ่งทุกคำร้องเรียนแม้กระทั่งบัตรสนเท่ห์ ก็มีการตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาสอบสวน ที่มีมูลก็ดำเนินการทั้งด้านวินัยและไล่ออก และต่อไปจะเป็นช่วงปฏิรูปการปฏิบัติราชการให้ดียิ่งขึ้น และเชื่อว่าถ้าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแม้ค่าตอบแทนขณะนี้จะไม่สูงมาก แต่อนาคตค่าตอบแทนราชการจะสูงขึ้น ซึ่งการเข้ารับราชการบางหน่วยงานก็เงินเดือนเริ่มต้นสูงกว่าเอกชนบางแห่งด้วย ทั้งนี้ข้าราชการจะต้องดำรงตนตามฐานานุรูปของตนเอง ไม่ใช่แค่เงินเดือนไม่มากมายแต่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ทางด้านนายสมคิด ยังเยี่ยม กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาที่ปปท.จังหวัดเชียงใหม่จำนวนมาก ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจนก็จะมีการลงโทษ โดยมีเรื่องร้องเรียนที่อยู่ระหว่างสอบสวนกว่า 100 เรื่องส่วนใหญ่เป็นเรื่องร้องเรียนทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อ จัดจ้าง
“ทุกรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการต่อต้านการทุจริต คอรัปชั่นแต่ก็มักจะไม่ได้ผลเนื่องจากข้าราชการขาดจิตสำนึก ซึ่งงานป้องกันฯกำลังจะรณรงค์ให้เยาวชนในสถานศึกษาได้สำนึกว่าทรัพย์สินของหลวงต้องช่วยกันรักษาและตรวจสอบ ดูแลผลประโยชน์ เพราะเงินที่เก็บภาษีแทนที่จะเอามาพัฒนาประเทศแต่หากปล่อยให้ไปตกอยู่ในมือคนไม่กี่คนไม่ถูกต้อง ปปช.กำลังจะสร้างหลักสูตรเข้าไปในสถานศึกษาให้เด็กได้เรียนหลักสูตรนี้ด้วย โดยจะให้นักศึกษา 12 สถาบันในเชียงใหม่ต้องลงทะเบียนเรียนด้วย”กรรมการปปท.จังหวัดเชียงใหม่ กล่าว.