EGCO Group ส่งมอบ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” เส้นทางป่าหลังบ้านเมืองเชียงใหม่ ชูแหล่งเรียนรู้นิเวศประวัติศาสตร์ที่เข้าถึงง่าย

EGCO Group ส่งมอบ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” เส้นทางป่าหลังบ้านเมืองเชียงใหม่ ชูแหล่งเรียนรู้นิเวศประวัติศาสตร์ที่เข้าถึงง่าย

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group โดย มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ปรับปรุง “เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” จ.เชียงใหม่ พร้อมจัดทำ Trail Head ระเบียงชมวิว และป้ายสื่อความหมายธรรมชาติตลอดแนวเส้นทาง โดยส่งมอบให้แก่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อชูให้เป็น “เส้นทางฯ ป่าหลังบ้านของเมืองเชียงใหม่” เพราะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่มากที่สุดแห่งหนึ่ง รวมทั้งเป็นป่าต้นน้ำและแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศเฉพาะถิ่นที่สะท้อนคุณค่าของป่าดิบเขาภาคเหนือ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช รับมอบเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุยที่มูลนิธิไทยรักษ์ป่าปรับปรุงขึ้น โดยมีนายสมเกียรติ สุทธิวานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบัญชีและการเงิน EGCO Group และรองประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ส่งมอบเส้นทางฯ นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายสมเกียรติ สุทธิวานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบัญชีและการเงิน EGCO Group และรองประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เปิดเผยว่า จากความเชื่อที่ว่า “ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี” EGCO Group ให้ความสำคัญกับการร่วมดูแลและพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนตั้งแต่ต้นทาง โดยได้ก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า องค์กรสาธารณกุศลเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศมากว่า 23 ปี หนึ่งในภารกิจของมูลนิธิฯ คือ การพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นห้องเรียนธรรมชาติให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงคุณค่าของป่าต้นน้ำและธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยระหว่างปี 2558 – 2567 มูลนิธิฯ ได้ร่วมกับกรมอุทยานฯ พัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติมาแล้ว จำนวน 10 เส้นทาง ในอุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง ใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และชัยภูมิ

ในปี 2568 มูลนิธิฯ ร่วมกับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย ซึ่งประกอบด้วยเส้นทางย่อย 3 เส้นทาง ระยะทางไป-กลับประมาณ 5 – 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2.5 – 5 ชั่วโมง ให้มีความแข็งแรง ความปลอดภัย เป็นมิตรกับระบบนิเวศ และกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงจัดทำ Trail Head 4 จุด ระเบียงชมวิว 3 จุด และป้ายสื่อความหมายธรรมชาติตลอดแนวเส้นทางรวม 24 ป้าย เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวหลายรูปแบบ ได้แก่

เส้นทางย่อยที่ 1 : เส้นทางฯ ยอดดอยปุย (Trailhead ยอดดอยปุย – ดอยหัวหมู) นิเวศประวัติศาสตร์บนยอดดอยปุย ระยะทางไป-กลับ 4.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไป-กลับประมาณ 3.5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาพื้นที่ป่าต้นน้ำบนดอยสูง การจัดการพื้นที่ทางนิเวศวิทยา และการชมวิวทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่

เส้นทางย่อยที่ 2 : เส้นทางฯ มรกต (Trailhead มรกต – ดอยหัวหมู) พื้นที่ที่ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติให้เชื่อมโยงกัน ระยะทางไป-กลับ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไป-กลับประมาณ 2.5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูนก หรือการเดินสัมผัสธรรมชาติเพื่อเติมพลังให้กับตัวเอง

เส้นทางย่อยที่ 3 : เส้นทางฯ ระยะไกล (Trailhead ยอดดอยปุย – ดอยหัวหมู – บ้านขุนช่างเคี่ยน) ระยะทางไป-กลับ 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไป-กลับประมาณ 5 ชั่วโมง มีความลาดชัน เหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายแข็งแรง ชอบความท้าทาย และต้องการเรียนรู้ทั้งธรรมชาติและวิถีชุมชน โดยเดินต่อจากดอยหัวหมูที่มีทัศนียภาพสวยงาม ไปตามแนวกันไฟ สู่หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน ชุมชนชาวม้งในพื้นที่ป่าดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย

“เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุยเปรียบเสมือน “เส้นทางฯ ป่าหลังบ้านของเมืองเชียงใหม่” เพราะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่มากที่สุดแห่งหนึ่ง รวมทั้งเป็นป่าต้นน้ำและแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศเฉพาะถิ่นที่สะท้อนคุณค่าของป่าดิบเขาภาคเหนือ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสทั้งความสวยงามของธรรมชาติและคุณค่าของป่าดิบเขาภาคเหนือ ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองเชียงใหม่ จนนำไปสู่การเกิดความตระหนักและจิตสำนึกในการร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน” นายสมเกียรติ กล่าว

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่าง กรมอุทยานฯ EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เพื่อพัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ให้มีความปลอดภัย แข็งแรง และสะดวกสำหรับการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน และภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับที่ 4 ระหว่างปี 2564 – 2569 นั้น ถือได้ว่า EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่าเป็นตัวอย่างของภาคเอกชน ที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนภารกิจของกรมอุทยานฯ ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์ ส่งเสริม และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น สอดคล้องกับแนวทางของกรมอุทยานฯ ที่ต้องการสนับสนุนและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมเส้นทางฯ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โทร. 0 5321 0246, 0 5321 0244, 086 420 5242 โดยการเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงเส้นทางฯ ด้วยรถยนต์ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง

เกี่ยวกับการพัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ป่าต้นน้ำของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า

นอกจากเส้นทางฯ ยอดดอยปุย ใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการปรับปรุงเส้นทางฯ ลำดับที่ 11 ของมูลนิธิฯ และเป็นเส้นทางฯ แห่งที่ 2 ของมูลนิธิฯ ในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แล้ว มูลนิธิฯ ยังได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำเร็จเรียบร้อยแล้ว 10 เส้นทาง ดังนี้ ใน จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางฯ ยอดดอย (ปี 2561) เส้นทางฯ กิ่วแม่ปาน (ปี 2562) เส้นทางฯ อ่างกา (ปี 2564) เส้นทางฯ ผาดอกเสี้ยว (ปี 2566) อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย 1 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางฯ น้ำตกมณฑาธาร (ปี 2558) ใน จ.นครศรีธรรมราช อุทยานแห่งชาติเขาหลวง 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางฯ น้ำตกพรหมโลก น้ำตกกะโรม น้ำตกอ้ายเขียว (ปี 2560) และเส้นทางฯ น้ำตกกรุงชิง (ปี 2565) และใน จ.ชัยภูมิ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา 1 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางฯ ผาหัวนาค (ปี 2567)

You may also like

“NEC พลังขับเคลื่อนทางการตลาดผลิตภัณฑ์”เสริมสมรรถนะผู้ประกอบการธุรกิจการค้าระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ

จำนวนผู้