เชียงใหม่สำรวจผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เบื้องต้น 25,522 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อสะสมเท่าเดิม 13 ราย ด้าน”บุญเลิศ”เทงบ 300 ล้านบาททั้งจ้างงานและจัดหาเครื่องอุปโภคบรรเทาความเดือดร้อน ด้านผู้ว่าฯสั่งอปท.เปิดศูนย์ฯช่วยเหลือและรับลงทะเบียนทั่วจังหวัด
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 24 มี.ค.63 ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ นายวิรุฯ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายแพทย์ กิตติพันธุ์ ฉลอม แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน ระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกอบจ.เชียงใหม่ นายวิษณุ วิทยวราวัฒน์ ท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่และนายภราดล พรอำนวย Chiang Mai Trust ผู้แทนภาคประชาชนได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่
นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโควิดฯ ซึ่งคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งปิดสถานบันเทิง ร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า โดยให้ทางหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงจังหวัดเชียงใหม่และองค์กรธุรกิจท่องเที่ยวรวบรวมเบื้องต้นมาให้
“สำหรับจำนวนลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบตัวเลชสรุปเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมาจากสถานบริการ 1,500 ราย,สนามมวย 500 ราย ห้างสรรพสินค้า 3,969 ราย มุมเครื่องเล่น 58 ราย ร้านอาหาร 9,762 ราย สถานศึกษา 4,712 ราย ศูนย์แสดงสินค้าฯ 138 ราย โรงมหรสพ 1,067 ราย สนามมวย ชนไก่และสนามม้า 1,048 ราย สวนสนุก 431 ราย ร้านเกมส์ 175 ราย อาบน้ำและฝากสัตว์ 56 ราย กิจการลดน้ำหนัก 1,498 ราย อาบอบนวด 28 ราย ทำผมและเสริมความงาม 1,500 ราย รวมเบื้องต้นประมาณ 25,532 ราย ”รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวชี้แจง
ด้านนายแพทย์ กิตติพันธุ์ ฉลอม แพทย์เวชศาสตร์ป้องกันระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสม 13ราย พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 12 ราย กลับบ้าน 1 ราย(จีน) ยังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์โรค 490 ราย กลับบ้านแล้ว 366 ราย ยังพักรักษาตัวที่รพ. 124 ราย
ทางด้านนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า อบจ.เชียงใหม่จัดงบ 100 ล้านบาท เพื่อจะสร้างฝายชะลอน้ำกระจายใน 22 อำเภอ โดยจะจ้างงานผู้ที่ตกงานเพื่อจัดทำฝายเพิ่มความชุ่มชื้นและยังช่วยป้องกันไฟป่าในปีต่อไปได้ด้วย และในช่วง 3 เดือนที่ต้องร่วมกันฝ่าวิกฤตินี้ อบจ.เชียงใหม่ยังได้จัดเตรียมเงินจำนวนหนึ่งในการจัดหาเครื่องอุปโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนที่ตกงานและขาดรายได้ทั้ง 25อำเภอ โดยเป็นการจัดหาอาหารแห้ง ซึ่งจะใช้งบฯ 200 ล้านบาทในการบรรเทาปัญหาดังกล่าว
นายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อบจ.เชียงใหม่ยังมีแนวคิดลดภาษีโรงแรม โดยจะขอมติจากสภาฯ ลดภาษีโรงแรมเหลือ .01% ซึ่งไม่สามารถยกเลิกการจัดเก็บภาษีได้ แต่จะจัดเก็บในอัตราที่ต่ำที่สุด
ทางด้านนายวิษณุวิทยวราวัฒน์ ท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ผวจ.เชียงใหม่ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง211 แห่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด โดยให้มาลงทะเบียนที่อปท. ทั้งผู้ที่ตกงาน และขาดรายได้จากคำสั่งของคณะกรรมการควบคุมโรคฯ ซึ่งหากเป็นท้องถิ่นเล็ก(อบต.)ไม่มีงบประมาณอุดหนุน ก็จะมีงบฯที่ส่วนกลางให้มาเป็นงบเกี่ยวกับภัยแล้งซึ่งสามารถนำมาจ้างงานเพื่อทุเลาปัญหาได้
ขณะที่นายนายภราดล พรอำนวย Chiang Mai Trust ผู้แทนภาคประชาชน กล่าวว่า ขณะนี้มีเอกชนหลายๆ คน ได้ทำอาหารออกมาช่วยเหลือแจกจ่ายให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานที่ต่างๆ ทำให้ขาดรายได้ และขณะนี้ได้ประสานกับทางวัดที่จะทำโรงทาน ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ทางศูนย์ข้อมูลฯต่อไป.
