อบจ.เชียงใหม่ลงนาม MOA กับพันธมิตร 11 องค์กรเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนระบบขนส่งสาธารณะรถพลังงานสะอาด EV BUS ในเขตเมืองเชียงใหม่ “พิชัย”เผยนำร่อง 2 เส้นทางเชื่อมศูนย์ขนส่งแหล่งเศรษฐกิจ สถานศึกษาและสถานพยาบาล ใช้เงินลงทุน 200-300 ล้าน ด้าน”ผู้ว่าฯรัฐพล”หวังเป็นแรงขับเคลื่อนสู่คมนาคมอัจฉริยะ
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.68 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ( MOA) ระหว่างอบจ.เชียงใหม่ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน 11 องค์กร เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนระบบขนส่งสาธารณะรถพลังงานสะอาด EV BUS ในเขตเมืองเชียงใหม่ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน สถาบันการศึกษาและประชาชนร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก
นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การพัฒนาระบบ EV Bus ถือเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนสู่ “มิติด้านการคมนาคมอัจฉริยะ” (Smart Mobility) ซึ่งเป็นแกนหลักของแนวคิด “เมืองอัจฉริยะ” การใช้พลังงานสะอาดในระบบขนส่งจะช่วยลดความแออัดและมลพิษในเมืองได้อย่างมาก โดยเฉพาะการช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นวาระสำคัญของจังหวัดอีกด้วย
นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองเชียงใหม่ ระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นกลไกสำคัญ โดย ทาง อบจ.เชียงใหม่ ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางสำหรับรถ EV Bus แล้ว 2 สายทางหลักในเขตเมือง อาทิ สายที่ 18 จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 2 – สถานีรถไฟเชียงใหม่ – อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย และสายที่ 20 จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 2 – ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ – ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการลงนามนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิต แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และเดินหน้าสู่การเป็น เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และ เมืองมรดกโลก
“โครงการดังกล่าวจะเริ่มให้บริการระยะแรกแบบนำร่อง 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ สาย 18 และสาย 20 เชื่อมศูนย์ขนส่ง แหล่งเศรษฐกิจ สถานศึกษา และสถานพยาบาลสำคัญ ก่อนขยายระยะที่ 2 ในสายที่ 6 เชื่อมท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยรถ EV Bus ใช้พลังงานสะอาด 100% เป็นรถชานต่ำ รองรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ติดตั้งระบบความปลอดภัยและติดตามรถแบบเรียลไทม์ คาดว่าจะจัดหารถประมาณ 40 คัน เส้นทางละ 20 คัน ใช้งบลงทุนราว 200–300 ล้านบาท วางแผนปล่อยรถทุก 10 นาที พร้อมเร่งจัดทำ TOR หลังลงนามความร่วมมือ ตั้งเป้าเริ่มให้บริการภายในปี 2569 เพื่อจูงใจประชาชนลดการใช้รถส่วนตัว และขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่เมืองท่องเที่ยวและเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน”นายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวชี้แจง
ทางด้านนายพจนา ศรีศิลป์นันท์ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เทศบาลจะดำเนินการ ปรับปรุงศาลาพักคอยให้มีความมั่นคง สะอาด และใช้งานง่าย ปรับปรุงทางเท้าให้มีความต่อเนื่อง ได้มาตรฐาน และปลอดภัย ปรับปรุง ย้าย หรือรื้อถอนสิ่งกีดขวาง เพื่อให้กลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส และผู้พิการ สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกและเท่าเทียม สำหรับความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผสานความพยายามของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง ทั้งด้านการวางแผนระบบ การขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Smart City และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ระบบ EV Bus สามารถเกิดขึ้นและให้บริการประชาชนในเขตเมืองเชียงใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม.
ความเห็นล่าสุด