ศาลเชียงใหม่ตัดสินคดีเผาป่าจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญาพร้อมให้ชดเชยค่าเสียหาย ส่วนอีกรายเข้าป่าล่าสัตว์สั่งจำคุก-ปรับ

ศาลเชียงใหม่ตัดสินคดีเผาป่าจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญาพร้อมให้ชดเชยค่าเสียหาย ส่วนอีกรายเข้าป่าล่าสัตว์สั่งจำคุก-ปรับ

ศาลเชียงใหม่ตัดสินจำคุกผู้ต้องหาจีนสัญชาติเมียนมา คดีเผาป่าที่บ้านอรุโรทัย อ.เชียงดาว โทษจำคุก 4 ปีผู้ต้องหารับสารภาพลดโทษเหลือ 2 ปีพร้อมให้จ่ายค่าเสียหายทำลายทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมกว่า 4 แสนบาท ส่วนอีกรายเข้าป่าล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวศาลสั่งจำคุก 15 วันปรับ 3 พันบาท

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.63 พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้มีหนังสือ ภ.จว.เชียงใหม่ ด่วนที่สุด ที่ 0020(ชม).413/638 ลง 13 มี.ค. 2563 ด้วยขณะนี้สถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองทวีความรุนแรง ยิ่งขึ้น ให้แต่ละ สภ.ฯ ประกอบกำลังชุดเคลื่อนที่เร็ว (ส.1/ป.5) อย่างน้อย สภ.ฯ ละ 2 ชป. เพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมแก้ไขปัญหา โดยให้รอง ผกก.1 นาย เป็นผู้ควบคุมการ ปฏิบัติของ ชป. เคลื่อนที่เร็ว และให้ไปประสานการปฏิบัติกับนายอำเภอท้องที่อย่างใกล้ชิด โดยให้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ

จากการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องสรุปข้อมูล ณ วันที่ 14 เมษายน 2563 สรุปผลการ ดำเนินการเฉพาะคดีมีตัวผู้ต้องหา 151 ราย แยกเป็น พ.ร.บ. สาธารณสุข 22 ราย พ.ร.บ.ป่าไม้ 38 ราย พ.ร.บ.จราจร 91 ราย เปรียบเทียบปรับ 109 ราย เป็นเงิน 41,100 บาท แยก เป็น พ.ร.บ.สาธารณสุข 13 ราย เป็นเงิน 13,400 บาท พ.ร.บ.ป่าไม้ 5 รายเป็นเงิน  2,500 บาท พ.ร.บ.จราจร 93 ราย เป็นเงิน 25,200 บาท ส่งดำาเนินคดี 42 ราย เป็น พ.ร.บ.สาธารณสุข 9 ราย พ.ร.บ.ป่าไม้  33 ราย

ทั้งนี้ล่าสุด โดยเมื่อวันที่ 15 เม.ย.63 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้นัดฟังคำตัดสินคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนาย เหล่าหวู่ แซ่ซือ ในความผิดพ.ร.บ.ป่าไม้,ความผิดพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ,พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ,ความผิดพ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง,ความผิดพ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของบุคคลต่างด้าว

สำหรับคดีดังกล่าวนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค.63 เวลา 16.30 น. คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดง ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ บริเวณป่าด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้บ้านอรุโณทัย หมู่ที่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระหว่างเส้นทางหมายเลข 1340 เส้นทางบ้านอรุโณทัย-สินชัย ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 43-44 ตามที่ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แจ้งว่าได้ทำการควบคุมตัวคนเผาพื้นที่ทำกินลุกลามเข้าป่า ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตามกฎหมาย

ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบไฟกำลังไหม้ลุกลามในพื้นที่ป่าโดยมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชุด ชรบ.หมู่บ้าน ควบคุมตัวชายจำนวน 1 คนไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามทราบชื่อภายหลัง ชื่อนายเหล่าหวู่  แซ่ซือ เป็นคนเชื้อชาติจีน สัญชาติพม่า ซึ่งให้การว่าตนเองได้ใช้ไฟแช็กแก๊สทำการจุดเผาเศษหญ้าและซังข้าวโพด และไฟได้ลุกลามเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นในตัวนายเหล่าหวู่ฯ พบไฟแช็กแก๊สขนาดเล็ก จำนวน 1 อัน อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวาตัวที่สวมใส่อยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้และลุกลามเข้าป่า ซึ่งเป็นป่าเบญจพรรณ ป่าไผ่ ป่าหญ้า ซึ่งแห้งและเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟจึงได้ลุกไหม้ขึ้นไปยังบนเขาซึ่งเป็นเขาสูงชัน อย่างรวดเร็วและเป็นบริเวณกว้าง (โดยมีนายชาติพงศ์ เมืองดี ทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษา) และทำการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบป่าเสียหายประมาณ 10 ไร่ ค่าเสียหายของรัฐ (อยู่ระหว่างดำเนินการคิดค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมบางประการหลังการทำลายพื้นที่ป่าไม้) ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว และเขตอุทยานแห่งชาติผาแดง จึงได้ร่วมกันถ่ายภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งไว้เป็นหลักฐาน สอบถามแล้วผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้จุดไฟเผาไร่ข้าวโพดของตน และไฟได้ลุกลามไหม้ป่าจริง เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวพร้อมยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนสภ.นาหวาย และ ชั้นอัยการ มีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหา โดยชั้นศาล มีคำพิพากษาคดีดำที 93/2563 คดีแดงที่37682563 พิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือโทษจำคุก 2 ปี ให้จำเลยชดใช้ของทรัพยากรธรรมชาติที่เสียหายและถูกทำลาย สูญหายเป็นเงิน 439,668 บาทแก่กรมป่าไม้และกรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงสุขภาพอนามัยของคนในสังคมโดยรวมนับเป็นร้ายแรงจึงไม่มีเหตุรอการลงโทษให้จำเลย

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 13 เม.ย.63 สภ.เชียงดาวฯ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.ฯ,พ.ต.ท.สมศักดิ์ ขันชัยทิศ รอง ผกก.ป.ฯ โดยมี พ.ต.ท.นคร อุ่นตาน สวป.ฯสายตรวจรถยนต์ สายตรวจรถจักรยานยนต์ ชุด ชป.ไฟป่า,ชุดสืบสวน,จนท.เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาวได้ร่วมกันจับกุม นายเรวัติ สิงห์คำ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 ม.8 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

โดยกล่าวหาว่า”ลักลอบเข้าไปในเขตอนุรักษ์พันสัตว์ป่าโดยผิดกฎหมาย”ทั้งนี้เนื่องจากในวันเวลาที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกลาดตะเวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันการลักลอบเผาป่า เมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุได้พบนายเรวัต ผู้ต้องหากำลังเดินออกมาจากเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว โดย ผตห.รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และต้องถูกจับกุม จากนั้นได้จับกุมผู้ต้องหาควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เชียงดาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้ตัดสินคดี นาย เรวัติ สิงคำ ข้อหาลักลอบเข้าไปในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าโดยผิดกฎหมาย นั้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 15 วัน ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี  และให้ชำระค่าสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ.

 

You may also like

อบจ.เชียงใหม่​ ร่วมภาคีเครือข่าย เฉลิมพระเกียรติ​ในหลวง ร.10 ครบ 6 รอบ “ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ที่หนองเขียว”

จำนวนผู้