ฝุ่นควันพิษปกคลุมทั่วจังหวัด ปชช.เจ็บป่วยระนาวตั้งคำถามปล่อยชิงเผาช่วงอากาศวิกฤติ

เชียงใหม่ประสบวิกฤตไฟป่า ฝุ่นควันปกคลุมมิดทุกอำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบถ้วนหน้า ทั้งแสบตา แสบจมูก และมีอาการไอมากขึ้น ทุกพื้นที่ได้กลิ่นควันชัดเจน ขณะที่ผู้ว่าฯเชียงใหม่ อ้างว่าเป็นฝุ่นควันข้ามแดนโดยเชียงใหม่ จะอยู่แบบนี้ไปอีก 2 – 3 วัน แต่การอนุญาติให้ชิงเผายังดำเนินการปกติมากกว่า 5 พันไร่

วันนี้ 15 มี.ค.67 สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ยิ่งวิกฤตหนักขึ้น ไฟป่ายังยังเกิดขึ้นสูงหลายพื้นที่โดยเฉพาะไฟไหม้ป่ากลางคืนต่อเนื่องยาวนาน โดยจังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนรอบเช้าเวลา 01.24 น.มีจำนวน 113 จุด รอบบ่ายอีก 70 จุด ทำให้ฝุ่นควันปกคลุมไปทั้งเมือง ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง จนมองเห็นควันไฟที่ลอยในอากาศ มีสีขาวขุ่นได้อย่างชัดเจน ประชาชนมีอาการแสบตา แสบจมูกและไอมากขึ้น ค่ามลพิษหรือ PM2.5 ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น มองไม่เห็นดอยสุเทพแทบ 100 %

สำหรับค่ามลพิษหรือPM2.5 ที่สถานีตรวจวัด ตำบลสุเทพ ตำบลช้างเผือก ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง ค่าPM2.5 อยู่ระหว่าง 121.6 – 137.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนคุณภาพอากาศแบบรายชั่วโมง ของศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ช่วงเวลา 11 นาฬิกา บ้านปางมะเยา ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว ค่าPM2.5 อยู่ที่ 634 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือสูงเกิน 17 เท่า และใน IQAIR คุณภาพอากาศเชียงใหม่ ยังแย่ยังติดอันดับ 1 ของโลก ตั้งแต่เมื่อคืน ยาวมาถึงช่วงเที่ยงของวันนี้ ยังอยู่ในระดับสีม่วง ก่อนที่ช่วงบ่ายตกมาอยู่อันดับ 2 ของโลก

ทางด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ฝุ่นควันมลพิษทางอากาศที่ปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้เป็นผลมาจากประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อนมากถึง 8,000 จุด เป็นฝุ่นควันข้ามแดน และจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นเช่นนี้ไปอีก 2-3 วัน โดยยอมรับว่าไฟในพื้นที่ยังมีอยู่แต่ได้สั่งให้รีบดำเนินการดับไฟให้ได้ภายใน 1 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหามลพิษทางอากาศที่ฝุ่นควันปกคลุมจนมืดมิดประชาชนได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งผู้สูงอายุเด็กและคนที่ต้องออกมาทำงานการแจ้งต่างประสบปัญหาเลือดกำเดาไหลแสบตาไอเจ็บป่วยต้องซื้อยามากินกันจำนวนมาก และตั้งคำถามถึงผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดว่าทำไมยังปล่อยให้มีการชิงเผาหรือบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยวันนี้(15 มี.ค.67)ยังพบว่าได้มีการอนุมัติให้มีการชิงเผาเกือบ 5,000 ไร่ ที่สำคัญคือกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์การระบายอากาศล่วงหน้าให้อยู่แล้วว่าระหว่างนี้การระบายอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ระบายได้น้อยหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยดังกล่าว กับซ้ำเติมสถานการณ์ให้ย่ำแย่มากขึ้น และกล่าวอ้างว่าสาเหตุมาจากฝุ่นควันข้ามแดนทั้งๆ ที่ชาวบ้านพบเห็นไฟเกิดขึ้นหลายพื้นที่

ส่วนทางด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เรียกประชุมมอบนโยบายภายหลังจากไปต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตรที่อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ก่อนขึ้นไปวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) และติดตามการดำเนินงานด้านการป้องกันการเกิดไฟป่าโดยเฉพาะการจัดตั้งจุดเฝ้าระวัง การเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมได้กำชับให้หน่วยงานที่ดูแลการดำเนินงาน เร่งจัดทำจุดเฝ้าระวัง และร่วม บูรณาการ ดำเนินงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวบ้านในพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย.