คนเชียงราย-เชียงใหม่ จี้รัฐเร่งเจรจาหยุดเหมืองแร่ต้นน้ำกก-น้ำสาย

คนเชียงราย-เชียงใหม่ จี้รัฐเร่งเจรจาหยุดเหมืองแร่ต้นน้ำกก-น้ำสาย

เชียงราย/เชียงใหม่ – คนลุ่มน้ำกก-น้ำสาย กว่า 2 พันคน แห่ร่วมกิจกรรมต้านเหมืองแร่คึกคัก  เรียกร้องรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมฟื้นฟูระบบนิเวศ ย้ำมลพิษข้ามพรมแดน ทำให้ประชาชนต้องเผชิญวิกฤติ  ตลอด  3 เดือนที่ผ่านมา ไม่เพียงสูญเสียด้านเศรษฐกิจ ยังกระทบกับสังคม และสร้างปัญหาสุขภาพ เมื่อเวลา 09.00 น.  วันที่  5 มิ.ย.68 กลุ่มเครือข่ายภาคประชาสังคมและเครือข่ายในพื้นที่ จ.เชียงราย นำโดย นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ และ ดร.สืบสกุล กิจนุกร สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา, น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผอ.มูลนิธิบูรณะนิเวศ และ ผศ.ดร.เสถียร ฉันทะ อ.มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้จัดกิจกรรม “ปอยหลวงปิดเหมือง” เพื่อรณรงค์ ต่อต้านการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ที่บริเวณสวนสาธารณะแม่ฟ้าหลวง  โดยมีประชาชนกว่า  1,000  คน เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก

ซึ่งในช่วงแรก ได้มีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ และพิธีตามความเชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ พร้อมกับเชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเจรจา และหามาตรการเพื่อยุติการทำเหมืองแร่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำกก และแม่น้ำสาย โดยเร็ว ก่อนที่กลุ่มขัวศิลปะ เชียงราย จะนำขบวนมุ่งหน้าไปสู่สะพานแม่ฟ้าหลวง โดยมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์  ให้ผู้ร่วมขบวนแต่งกายด้วยชุดสีดำ ถือภาพปลาแข้ เดินตามแนวถนนในลักษณะคล้ายพิธีศพ แล้วโบกธงสีฟ้า กับสีเขียว ชูป้ายข้อความต่าง ๆ เช่น  “เหมืองทองต้นน้ำในพม่า สร้างมลพิษไหลมาถึงบ้านเรา”  และ  “จากสายธารแห่งชีวิต สู่แหล่งพิษที่ไร้เสียง” เป็นต้นเมื่อขบวนไปถึงกลางสะพานแม่ฟ้าหลวง (หรือสะพานข้ามแม่น้ำกก) ได้มีการอ่านแถลงการณ์โดยตัวแทนเยาวชน พร้อมทั้งเผยแพร่จดหมายเปิดผนึก 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน รวมถึงภาษาพื้นถิ่นไทใหญ่ โดยสาระสำคัญ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และยืนยันว่าทางกลุ่มจะทำกิจกรรมผลักดันอย่างต่อเนื่องจนกว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม  นอกจากนี้ ยังแสดงเจตจำนงในการสนับสนุนรัฐบาลให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ

ต่อมา ในเวลา 11.15  น. ตัวแทนกลุ่มฯ ได้ยื่นจดหมายข้อเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และมีตัวแทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เขต 1  เป็นผู้รับหนังสือ ซึ่งได้รับปากว่าจะจัดส่งสำเนาหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณานัดเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเมียนมา และจีน   โดยยืนยันว่าทางราชการไม่ได้เพิกเฉยต่อปัญหาดังกล่าว และจะเร่งประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกันโดยเร็วขณะที่ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน (5  มิ.ย.) ที่สะพานสุขสนธิ (สะพานท่าตอน) ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกก จ.เชียงใหม่ นำโดย นายทัศนพล ก่ำบุตร รองนายก อบต.ท่าตอน  อ.แม่อาย ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ส่วนราชการ พระภิกษุ สามเณร นักเรียน รวมถึงประชาชน จาก อ.ฝาง แม่อาย และไชยปราการ  ประมาณ 1,000 คน ได้จัดกิจกรรมรณรงค์  “ปกป้องแม่น้ำกก”ใน วันสิ่งแวดล้อมโลก เพื่อเรียกร้องรัฐบาลออกมาปกป้องแม่น้ำกก เร่งแก้ไขปัญหาแม่น้ำกกปนเปื้อนสารพิษจากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ลุ่มแม่น้ำกก ทั้งในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย โดยมีป้ายข้อความต่าง ๆ อาทิ “คืนชีวิตให้น้ำกก SAVE NAM KOHK”, “STOP RIVER MURDER”, “เอาเหมืองแร่คืนไป เอาน้ำกกคืนมา” และ “เชียงใหม่ เชียงราย กลายเป็นสายน้ำพิษ”

ภายในงาน ยังเปิดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเขียนแสดงเจตจำนง “ปกป้องแม่น้ำกก” บนป้ายผ้าที่ติดไว้ตลอดแนวสะพาน ขณะเดียวกันบนเวที  ได้กล่าวถึงผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ และให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับสารพิษปนเปื้อน เพื่อให้ประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงผลกระทบของการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาโดยใช้กลไกระดับประเทศ ก่อนที่ตัวแทนเด็กนักเรียนจะแสดงเจตจำนง “SAVE แม่น้ำกก” ด้วยการร่วมกันร้องเพลง “คนทางลุ่ม” แล้วจึงอ่านแถลงการณ์ถึงนายกรัฐมนตรี  โดยมีสาระสำคัญ คือ ประชาชนที่อาศัยในลุ่มแม่น้ำกก รวมถึงแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย กำลังเผชิญปัญหาการปนเปื้อนสารพิษ  ซึ่งจากผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก จำนวน 3 ครั้งที่ผ่านมา พบว่ามีโลหะหนัก/สารพิษเกินค่ามาตรฐานทั้ง 3 ครั้งและจากข่าวสาร  ภาพถ่ายดาวเทียม ก็แสดงให้เห็นว่ามีการเปิดหน้าดินทำเหมืองแร่เถื่อนบริเวณต้นแม่น้ำกก และแม่น้ำสาย กว่า 40 จุด ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับประชาชน  ซ้ำในช่วง  3 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนต้องเผชิญกับความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว การค้าขาย เกิดผลกระทบทางสังคม สุขภาพ โดยยังไม่มีมาตรการแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษข้ามพรมแดน ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้ยืดเยื้อ สร้างความเสียหายที่รุนแรงต่อประชาชน จึงขอเรียกร้องให้ดำเนินการในทุกวิถีทาง เพื่อยุติการทำเหมืองแร่ และมีมาตรการฟื้นฟูระบบนิเวศแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง รวมทั้งระบบเศรษฐกิจและสังคมของท้องถิ่นอย่างเร่งด่วน  จากนั้น ได้ยื่นหนังสือต่อนายไมตรี ดวงใจ ปลัดอำเภอแม่อาย ก่อนที่จะมีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์แม่น้ำกกในตอนท้าย.

You may also like

โฮมสุขภัณฑ์ เชียงใหม่ จัดงาน “Mid Year Sale” ลดสนั่นกลางปี สูงสุด 80%

จำนวนผู้