คณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดตัว นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบใหม่ New Chapter of Med CMU Robotic Surgery Center แห่งแรกของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกระดับระบบบริการสุขภาพด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

คณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดตัว นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบใหม่ New Chapter of Med CMU Robotic Surgery Center แห่งแรกของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกระดับระบบบริการสุขภาพด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

เชียงใหม่ – คณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดตัว นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบใหม่ New Chapter of Med CMU Robotic Surgery Center แห่งแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกระดับระบบบริการสุขภาพด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง การตอบสนองต่อความต้องการด้านสุขภาพของประชาชน ให้บริการทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลายทันสมัยอย่างสูงสุด  ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ณ ชั้น 15 อาคารเฉลิมพระบารมี คณะแพทยศาสตร์ มช.

รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “คณะแพทยศาสตร์ มช. มุ่งมั่นพัฒนาระบบบริการสุขภาพโดยยึดหลักนวัตกรรม ความยั่งยืน และความเสมอภาค เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ระดับนานาชาติ และแบบอย่างของโรงเรียนแพทย์แห่งอนาคต ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้ การวิจัย และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ตามวิสัยทัศน์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ในดวงใจ เพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาวะ ด้วยนวัตกรรม การแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นการเปิดบทใหม่ของการรักษาในระบบสุขภาพไทย และหุ่นยนต์ผ่าตัดระบบใหม่ ถือเป็นการพลิกโฉมการผ่าตัดยุคใหม่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการใช้งานระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดที่มีความแม่นยำสูง ยืดหยุ่น และเป็นมิตรกับทั้งศัลยแพทย์และผู้ป่วย ระบบนี้จะช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถเข้าถึงการผ่าตัดที่ซับซ้อนในจุดที่เข้าถึงยากได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมลดภาวะแทรกซ้อน ฟื้นตัวเร็ว และลดความเจ็บปวดของผู้ป่วย

 

หุ่นยนต์ผ่าตัดระบบใหม่นี้ ได้รับการออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มแบบโมดูลาร์ที่สามารถทำหัตถการในหลายส่วนภายในร่างกาย ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Modular Platform ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับศัลยแพทย์ ด้วยแขนกลที่สามารถเลียนแบบการหมุนของข้อมือมนุษย์ แต่มีอิสระมากกว่า ทั้งยังมาพร้อมคอนโซลเปิดตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้ศัลยแพทย์สามารถควบคุมการผ่าตัดได้แม่นยำและสบายขึ้นแม้ต้องใช้เวลานาน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันผ่านจอแสดงผล 3 มิติแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ศัลยแพทย์กำลังทำการผ่าตัด  และผู้สังเกตการณ์สามารถดูภาพและสื่อสารร่วมกันได้ตลอดเวลา”

ด้านศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ คณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวเพิ่มเติมว่า  “คณะแพทยศาสตร์ มช. มีการเริ่มนำหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมาใช้เพื่อการรักษาผู้ป่วยตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2554 โดยเน้นการผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมากและการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ หุ่นยนต์ผ่าตัดไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นเพื่อนร่วมทีมที่ช่วยให้แพทย์ทำหัตถการได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพสูงสุด ครอบคลุมทุกระบบการผ่าตัด สำคัญต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วย และในปีนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดตัวระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดรุ่นใหม่ ซึ่งนับเป็นการนำระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมาใช้งานเป็นที่แรกของประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับการผ่าตัดในหลากหลายระบบของร่างกาย เช่น

  • ระบบทางเดินปัสสาวะ: มะเร็งต่อมลูกหมาก, กระเพาะปัสสาวะ, ไต
  • ทางเดินอาหาร: มะเร็งลำไส้ใหญ่, หลอดอาหาร, ทวารหนัก
  • ตับ ตับอ่อน และน้ำดี: มะเร็งตับ, นิ่วในถุงน้ำดี
  • ศัลยกรรมทั่วไปและนรีเวช: ไส้เลื่อน, เนื้องอกมดลูก, เนื้องอกรังไข่, อุ้งเชิงกรานหย่อน

นอกจากนี้คณะแพทยศาสตร์ มช. ยังเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมด้านหลักสูตรฝึกอบรมศัลยแพทย์ในการใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดเพื่อพัฒนาแพทย์เฉพาะทางรองรับความต้องการระดับประเทศและภูมิภาค และโครงการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมการรักษา สนับสนุนการศึกษาผลลัพธ์ทางคลินิก ความปลอดภัย และการประยุกต์ใช้งานในบริบทของไทย นวัตกรรมนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ประเทศไทยมีศัลยแพทย์ที่มีความสามารถระดับสากล พร้อมทั้งเพิ่มการเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้ป่วยทุกกลุ่ม

“หุ่นยนต์ผ่าตัดระบบใหม่นี้ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือความหวังใหม่ของผู้ป่วยและระบบสุขภาพไทย ที่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือระดับโลก โดยมีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางแห่งการเริ่มต้นสู่อนาคต”

***

สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

คุณธนศักย์ อุทิศชลานนท์ (โป้ง)  081-421-5249 E-mail: tanasakutischalanon@gmail.com

คุณธีรามาศ เพชรจุ้ย (อาร์ม) 089-494-5936 E-mail: armarmt@gmail.com

You may also like

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพของภาคท่องเที่ยวในการให้บริการต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม(Muslim Friendly)

จำนวนผู้