กลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังนัดยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าฯอ้อนขอเลื่อนบังคับใช้กฎหมายเดินเรือในน่านน้ำและสร้างสิ่งรุกล้ำ

กลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังนัดยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าฯอ้อนขอเลื่อนบังคับใช้กฎหมายเดินเรือในน่านน้ำและสร้างสิ่งรุกล้ำ

กลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายการเดินเรือในน่านน้ำไทยออกไป 1 ปี อ้างได้รับผลกระทบจากค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นรวมทั้งค่าปรับ พร้อมอ้อนขอให้นิรโทษกรรมเกษตรกรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งล่วงล้ำในแหล่งน้ำด้วย

วันที่ 6 มิ.ย.2560 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายสมหมาย คำมาสาร ในนามกลุ่มสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ นายวาริน เขื่อนแก้ว ส.ท.หนองตองพัฒนา อ.หางดง และนายสุวรรณ ฟองเงิน ผู้ใหญ่บ้าน บ.ท่าขุนคง ม.7 ต.ขุนคง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ รวมทั้งสมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 50 คน ได้เดินทางมาที่ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง ขอให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 โดยมีนายกฤษณ์ ธนาวนิช รองผวจ.เชียงใหม่เป็นผู้ออกมารับหนังสือ

ทั้งนี้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังฯ อ้างว่าได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560  เนื่องจากเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดในกระชังในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จาก 10 อำเภอจำนวน 247 ครอบครัว รวมจำนวนกระชังทั้งสิ้น 2,967 กระชัง หากคิดพื้นที่กระชังรวมเป็นจำนวน 58,614 ตารางเมตร และเมื่อคิดค่าธรรมเนียมรายปี กรณีที่ได้รับอนุญาตตารางเมตรละไม่ต่ำกว่า 100 บาท จะเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 5,861,400 บาท และหากต้องถูกปรับจะต้องเสียค่าปรับตารางเมตรละ 500 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 29,307,000 บาท หรืออาจได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ทางกลุ่มเกษตรกรฯจึงขออนุเคราะห์ให้รัฐบาลพิจารณาขยายระยะเวลาการบังคับใช้ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ฉบับที่ 17 พ.ศ. 2560 ออกไปก่อนอย่างน้อย 1 ปี และขอให้นิรโทษกรรมเกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งล่วงล้ำแหล่งน้ำด้วย

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ทางเครือข่ายกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังทั่วประเทศ 60 จังหวัด ได้นัดหมายให้ไปรวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดทุกแห่ง เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีผ่าน ผวจ.แต่ละจังหวัด เพื่อให้พิจารณาดำเนินมาตรการที่เหมาะสมไม่ให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากการใช้ พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ.๒๕๖๐ นั้น

โดยสาเหตุของการยื่นหนังสือของกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชัง เนื่องจาก พ.ร.บ.ดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนการเลี้ยงปลาในกระชุงสูงขึ้น เนื่องจากมีการกำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ต้องแจ้งต่อกรมเจ้าท่าหรือ สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาที่สิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังขออนุญาตกรมเจ้าท่า ต้องเสียค่าธรรมเนียมกระชังปลารายปี ตารางเมตรละ 50-1,000 บาท รวมทั้งต้องมีวิศวกรเซ็นต์รับรองการออกแบบกระชังปลาด้วย หากเกษตรกรรายใดไม่มีใบอนุญาตก็จะต้องเสียค่าปรับเป็นเงิน ตร.ม.ละ 500-10,000 บาท ดังนั้น จึงจะเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาหรือผ่อนปรนข้อกำหนดดังกล่าว.

You may also like

อบจ.เชียงใหม่​ ร่วมภาคีเครือข่าย เฉลิมพระเกียรติ​ในหลวง ร.10 ครบ 6 รอบ “ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ที่หนองเขียว”

จำนวนผู้