เชียงราย / กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ลุยจัดสัมมนาสัญจร เปิดรับฟังปัญหาผู้ขอสัญชาติไทย ผู้แทนคณะย้ำจะเร่งผลักดันคำร้องขอที่ค้างอยู่ในระบบนับหมื่นรายให้เสร็จ พร้อมหนุนเยาวชนกลุ่ม G ให้ได้เลขประจำตัว 13 หลัก กรุยทางเข้าถึงสิทธิทางการศึกษา หวังเป็นแรงขับเคลื่อน ศก.ไทยในอนาคต
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ม.ค. ผู้แทนคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ นำโดย พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่ 3 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ได้จัดโครงการสัมมนา กมธ.ความมั่นคงสัญจร ครั้งที่ 1 เรื่อง “การเสริมสร้างความมั่นคงและกิจการชายแดนคนไทย” ที่ อาคารอเนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอดอยหลวง จ.เชียงราย เพื่อรับฟังปัญหา พร้อมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีผู้ไร้รัฐไร้สัญชาติในพื้นที่ โดยมีวิทยากรทั้งจากภาครัฐ และภาคประชาชน เข้าร่วม ได้แก่ นางประนอม กิจเจริญ ปลัดอำเภอดอยหลวง, นายอริยะ เพ็ชร์สาคร และ น.ส.อุนทิพย์ พุทธวงค์ เครือข่ายสถานะบุคคล จ.เชียงราย
นายพีรเดช คำสมุทร โฆษกคณะกรรมาธิการฯ และ ส.ส.เชียงราย เขต 6 กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ว่าปัญหาของผู้ขอสัญชาติไทย ส่วนหนึ่งอยู่ที่ความหลากหลายของกฎเกณฑ์ เช่น การขอสัญชาติของวัยแรกเกิด การขอสัญชาติของประชาชนที่อายุอยู่ในเกณฑ์ 18 ปี การขอสัญชาติของประชาชนที่มีอายุเกิน 18 ปี หรือผู้ขอสัญชาติที่อยู่ในวัยสูงอายุ ทำให้มีผู้ขอสัญชาติไทยที่ยังคงติดอยู่ในระบบเป็นจำนวนมาก กมธ.ความมั่งคงแห่งรัฐฯ จึงได้จัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อจะได้จัดทำข้อมูลและแก้ไขกระบวนการที่สร้างผลกระทบต่อการขอสัญชาติของประชาชน
ขณะเดียวกันในฐานะที่เป็น ส.ส.ในพื้นที่ เบื้องต้นจะช่วยรวบรวมรายชื่อ และเอกสารของคนไร้รัฐไร้สัญชาติในพื้นที่ ที่ยังคงมีปัญหาในการขอสัญชาติไทย รวมถึงการขอบัตรยืนยันสถานะบุคคลชนิดต่างๆ ให้นักศึกษาจาก ม.ราชภัฏ เชียงราย และ ม.แม่ฟ้าหลวง ที่ได้ประสานไว้ ร่วมกับกลุ่ม NGOs จากเครือข่ายสถานะบุคคล จ.เชียงราย พิจารณาว่าปัญหาในแต่ละกรณีจะต้องดำเนินการขั้นตอนใด รวมถึงจะเป็นกระบอกเสียงขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวในสภา เพื่อหาแนวทางผลักดันการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ได้รับสถานะใดสถานะหนึ่งอย่างชัดเจน ไม่ใช่บุคคลที่ถูกลืมจากสังคมเช่นปัจจุบัน ทั้งนี้บุคคลไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ก็ต้องกระตือรือร้นในการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ และรู้ถึงสิทธิที่ตนจะได้รับด้วย ไม่ใช่รอรับการช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว
นางประนอม กล่าวว่าในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ มองความล่าช้าส่วนใหญ่ เกิดขึ้นจากขั้นตอน และเงื่อนไขการตรวจสอบที่มีหลายชั้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บางส่วน ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน เมื่อถูกโยกย้ายไปพื้นที่อื่นก็ขาดความต่อเนื่อง ทำให้เอกสารยื่นคำร้องสูญหายไปบางส่วน
น.ส.อุนทิพย์ เสริมว่า ในส่วนของผู้ไร้รัฐ ไร้สัญชาติที่ยื่นคำร้องขอสัญชาติ หรือขอยืนยันสถานะบุคคลในรูปแบบต่างๆ ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างโปร่งใสด้วย ไม่ใช่ติดสินบนเจ้าหน้าที่ หรือสร้างพยานเท็จขึ้นมา เพราะอาจจะทำให้ชื่อของผู้ยื่นคำร้องติดบัญชีดำได้
ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ มุ่งเน้นความมั่นคงของประชาชนเป็นหลัก ในการเข้ามาแก้ไขปัญหาคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ซึ่งเป็นปัญหาที่เรื้อรังมายาวนาน จะร่วมมือกับภาครัฐ และ NGOs ผลักดันคำร้องการขอสัญชาติไทย และการขอยืนยันสถานะบุคคลที่ค้างอยู่ในระบบจำนวน 10,000 คน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมตั้งเป้าไว้ 25,000 คน ในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทาง กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ จะผลักดันให้มีเลขประจำตัว 13 หลัก ขึ้นต้นด้วยตัว G ครบทุกคน เพื่อมอบโอกาสให้สามารถเข้าถึงสิทธิการศึกษาในโรงเรียนไทยได้ ในอนาคตจะได้สามารถเป็นแรงงานที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยได้.


ความเห็นล่าสุด