พรรคเพื่อไทยขึ้นเหนือจัดเวทีปราศรัยใหญ่เชียงใหม่ “สุดารัตน์”มั่นใจรักษาเก้าอี้ส.ส.เชียงใหม่และลำพูนทุกเขต
วันนี้ (2 มีนาคม 2562) พรรคเพื่อไทยได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยมีประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนมาฟังคำปราศรัยของแกนนำพรรคเพื่อไทย กว่า 7,000 คน นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยทยอยกันขึ้นเวทีปราศรัย อาทิ นายนพดล ปัทมะ, นายโภคิน พลกุล, นายอดิสร เพียงเกษ, นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์, นายปลอดประสพ สุรัสวดี โดยมั่นใจว่าประชาชานในพื้นที่เชียงใหม่และลำพูนจะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งครั้งนี้
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายสำคัญในการแก้ปํญหาและพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ 3 ด้านหลักคือ 1.วางเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรปรับเปลี่ยนให้เป็นเกษตรออร์แกนิก 2.วางเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคเชื่อมโยง 5 เชียง จากล้านนาไปล้านช้าง ซึ่งจะทำให้ขยายวันพักและท่องเที่ยว โดยเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวจาก 8 หมื่นล้านเป็นกว่า 1 แสนล้านบาท ภายใน 2 ปี และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยเป็น 50 ล้านคน และจะทำรายได้จากดารท่องเที่ยวเป็น 3 ล้านล้านบาท 3.วางเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางคนรุ่นใหม่ด้าน Tech และ Startup สร้างสภาพแวดล้อมและดึงคนรุ่นใหม่ทำงานสร้างงานและรายได้ สร้างสถาบันด้านเงินทุน เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนเพื่อให้ทำงานและประกอบอาชีพได้
ทั้งนี้ การเปิดเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เนื่องจากเชียงใหม่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรรค และเป็นบ้านเกิดของอดีตนายกรัฐมนตรีนายทักษิณ ชินวัตร การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครสส.ครบทั้ง9เขต โดย 8 เขตเป็นอดีตสส.เดิมในพื้นที่ ยกเว้นเขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอสันกำแพง แม่ออนและดอยสะเก็ด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอดีตนายกฯทักษิณ พรรคเพื่อไทยส่งนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัครหน้าใหม่ ซึ่งเป็นนักธุรกิจทายาทเจ้าของตลาดต้นพะยอมลงชิงเก้าอี้สส. มั่นใจว่าจะได้คะแนนเสียงถล่มทลายทั้ง 9 เขต เช่นเดียวกับสนามเลือกตั้งที่จังหวัดลำพูน ทั้ง 2 เขต ซึ่งพรุ่งนี้คุณหญิงสุดารัตน์ และแกนนำพรรคจะลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร สส.ของพรรคที่อำเภอลี้.