การป้องกันฝุ่นpm2.5 เป็นหน้าที่ของทุกคน รัฐเน้นดูแลกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยง ปภ.เผยผู้ว่าฯเชียงใหม่สั่งการผ่านเพจเฟสบุ๊ค

การป้องกันฝุ่นpm2.5 เป็นหน้าที่ของทุกคน รัฐเน้นดูแลกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยง ปภ.เผยผู้ว่าฯเชียงใหม่สั่งการผ่านเพจเฟสบุ๊ค

สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ชี้การป้องกันฝุ่นpm2.5 เป็นหน้าที่ของทุกคน รัฐเน้นดูแลกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยง เผยสถิติ 4 กลุ่มโรคที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นฯจะพีคช่วงม.ค.กับมี.ค. กำชับห้ามขาดยาเด็ดขาด ขณะที่หัวหน้าสำนักงานปภ.เผยข้อสั่งการผู้ว่าฯเผยแพร่ทางเฟสบุ๊คส่วนตัวแล้ว

เมื่อวันที่ 9 มี.ค.66 ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 จังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่  ได้รายงานในการประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นpm2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุม โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงข้อเรียกร้องของภาคประชาสังคมที่อยากให้จังหวัดหรือรัฐบาลจัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 หรือหน้ากาก N95 ว่า จริงๆ การป้องกันตัวเองเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องจัดหา สำหรับการดำเนินงานจัดหาหน้ากากป้องกันฝุ่นฯของกระทรวงฯและของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่มีเป้าหมายแรกไปที่กลุ่มเปราะบาง เป็นหลัก

“สำหรับกลุ่มเสี่ยงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่แล้วว่าห้ามขาดยาเด็ดขาดและต้องมีหน้ากากป้องกันฝุ่น ตอนนี้ยาเวชภัณฑ์ได้เตรียมไว้เต็มที่ และจะไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากการดับไฟ หรือถูกไฟลวก โดยได้เพิ่มการคัดกรองคนดับไฟในทุกพื้นที่ หากใครที่มีโรคความดันสูงจะไม่ให้ไปดับไฟ นอกจากนี้ยังได้เน้นเรื่องของการส่งต่อผู้ป่วยต้อง 100% โดยแจ้งให้ทุกพื้นที่ไปแล้วว่าถ้ามีผู้ประสบเหตุจากการเข้าไปดับไฟต้องได้รับการรักษาที่ดีที่สุด”นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวและว่า

สำหรับตัวเลขของผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลองรัฐ หากดูสถิติจะเห็นว่าผลกระทบผู้ป่วยในโรงพยาบาลปีนี้ควบคุมได้ดีกว่าปีที่แล้ว  โดยจะดู 4 กลุ่มโรค คือ 1.โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่กำเริบ ซึ่งปกติจะกำเริบต้นม.ค.กับปลายมี.ค. แต่ดูกราฟแล้วก็ยังรักษาระดับทรงๆ โดยกลุ่มนี้จะต้องไม่ให้ขาดยาและใส่แมส  โดยดูจำนวนผู้ป่วยต่อสัปดาห์ทั้งปอดอุดกั้น 2.ผู้ป่วยโรคหอบหืดยังทรงๆ 3.ผู้ป่วยโรคหัวใจ หลอดเลือดก็ทรงๆ มีแค่ตาแดงที่เพิ่มขึ้นและโรคผิวหนังที่เพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ระดับที่ควบคุมได้ แต่ผลกระทบที่อยู่ที่บ้าน มีอาการระคายคอ แสบตา คิดว่ามีอยู่แต่ไม่ได้ไปโรงพยาบาล

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับฝุ่นละอองขนาดเล็กPm2.5 มีผลกระทบต่อประชาชนแน่นอนและมีการตั้งรับเต็มที่และจะทำต่อ แต่ในเชิงPublic หรือสาธารณะ กิจกรรมต่างๆ ควรจะปรึกษาหารือกันว่าเมื่อค่าpm2.5 ขึ้นสูงจริงๆ ควรจะลดกิจกรรมอะไรบ้าง เช่น ทำงานที่บ้าน หรือ Car Free Day ลดการใช้รถ ซึ่งเป็นกิจกรรมเชิงบวกน่าจะทำ ส่วนกิจกรรมที่ต้องห้ามควรพิจารณาให้รอบคอบ

ทางด้านนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อวาน(8 มี.ค.66)สถานกงสุลสหรัฐฯได้สอบถามว่าค่าpm2.5 เท่าไหร่ถึงจะมีประกาศให้ปิดโรงเรียน ตนก็ตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายผู้ว่าฯ อีกอย่างเหมือนที่นพ.สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่บอกว่า ถ้าเป็นคำสั่งเชิงลบต้องพิจารณาให้ดี และได้สั่งการให้อปท.ไปแล้วไปดูเรื่องการแจกหน้ากากให้กลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุและเด็กเล็ก

สำหรับเรื่องเซฟตี้โซนเป็นเรื่องสำคัญ และการแจ้งเตือนก็สำคัญด้วย ขอให้ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะฝ่ายเลขานุการฯไปดำเนินการด้วย ถ้าหากให้ประกาศเป็นนโยบายสาธารณะแต่ถ้าจังหวัดใกล้เคียงไม่ประกาศ มันก็กระทบกับเราเหมือนที่นายแพทย์ใหญ่บอก

“ส่วนเรื่องห้องปลอดฝุ่นที่ผู้ว่าฯตั้งเป้าไว้ 2,900 แห่งแต่ขณะนี้ทั้งจังหวัดได้ไม่ถึง 1 พันแห่ง เมื่อก่อนทางผู้ประกอบการเคยมาหารือบอกว่าทางห้างเขาเป็นเซฟตี้โซน แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนรู้”รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

ขณะที่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เราเคยอยากให้มีพื้นที่ปลอดฝุ่นโดย ให้โลโก้ แสดงสัญลักษณ์ ถ้าห้างสรรพสินค้าเองอยากแสดงว่าปลอดฝุ่น ให้เข้าเวบไซต์ของกรมอนามัย ซึ่งจะรับรองมาตรฐานผ่านเวบไซต์ให้เหมือน SHA ตอนโควิดฯ แต่ถ้าหากเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบให้ และหากมีสถานที่ปลอดฝุ่นที่เอกชนลงทุนเองก็อยากผลักดันให้มี

นพ.จตุชัย กล่าวอีกว่าสำหรับมาตรการสาธารณะ ได้สื่อสารไปยังโรงเรียนทุกแห่งซึ่งมีห้องพยาบาลอยู่ว่า ถ้าpm2.5 แสดงค่าสีแดง มากกว่า 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ให้งดกิจกรรมทุกชนิด เข้าแถวหน้าชั้นเรียน ห้ามเด็กวิ่งเล่นนอกอาคาร และเด็กก็จะได้ซึมซับถึงภัยของฝุ่นและเป็นการสื่อสารเชิงบวกด้วย นอกจากนี้ยังมองว่า ระบบงบฯลงไปที่ภาครัฐ แต่ไม่ได้ลงไปที่ภาคประชาชน ซึ่งประชาชนเป็นผู้รับผลทั้งหมด อย่างที่บอกเห็ดถอบได้ 27 ล้านบาท แต่ถ้าเขาไม่ทำจะได้อากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เพราะฉะนั้นทำอย่างไรให้ชาวบ้านได้งบฯขอให้ช่วยกันคิดนอกกรอบ อย่างเช่นจุดความร้อนลดลงในหมู่บ้านใด ควรจะได้เงิน เพราะเขาเป็นคนจุด แต่ถ้าห้ามแล้วเขาเสียประโยชน์ก็เป็นสิ่งชวนคิด ถ้าอยากต่อสู้กับเรื่องนี้ เพราะเราสู้กันมา 10 กว่าปีแล้ว และเราคงได้แค่นี้ถ้ายังไม่มีอินโนเวชั่นและอะไรหลากหลาย ต้องช่วยกันคิดและผลักดันนโยบายถ้าผลประโยชน์ลงถึงประชาชน อาจจะเริ่มจากจุดเล็กๆ จากป่าชุมชนก่อนก็ได้

ทางด้านนายอรุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการศูนย์บัญชาการไฟป่าฯ กล่าวว่า สำหรับข้อสั่งการของนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จากอินโฟกราฟฟิกในเพจFacebook มีอยู่ 10 ข้อให้ถือเป็นบัญญัติ 10 ประการตามละเอียดที่เผยแพร่ออกไป.

You may also like

อบจ.เชียงใหม่ระดม108หน่วยงาน “รวมใจเป็นหนึ่ง”ฟื้นฟูทำความสะอาดเมืองตั้งเป้าเสร็จภายในเดือนต.ค.นี้ขณะที่”ทักษิณ”ให้ 1 ล้านสนับสนุนกิจกรรม

จำนวนผู้