แม่ทัพน้อยที่ 3 แจงแนวทางปี 63 ควบคุมพื้นที่อมก๋อยปลอดฝิ่น-ยาเสพติด ปัญหาความมั่นคงหมดไปจากพื้นที่

แม่ทัพน้อยที่ 3 แจงแนวทางปี 63 ควบคุมพื้นที่อมก๋อยปลอดฝิ่น-ยาเสพติด ปัญหาความมั่นคงหมดไปจากพื้นที่

ประชุมคณะกรรมการฯแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย ประจำปี 2562 แม่ทัพน้อยที่ 3 พอใจผลการดำเนินงานลดพื้นที่ปลูกฝิ่นในพื้นที่ได้มาก แจงปี 2563 เน้นการควบคุมพื้นที่ไม่ให้มีการปลูกฝิ่น เพื่อให้อมก๋อยปลอดฝิ่นและยาเสพติด ราษฎรในพื้นที่มีความเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพและรายได้พอเพียง ปัญหากระทบความมั่นคงหมดไป

เชียงใหม่/เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 ที่โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท พล.ท. สุภโชค  ธวัชพีระชัย  แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย ประจำปี 2562 อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะกรรมการอำนวยการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบผลการดำเนินการที่ผ่านมาของ ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย โดยเฉพาะการดำเนินการตามแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาฝิ่น/ยาเสพติด และความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย ระยะ 5 ปี ( 2560-2564 ) โดยมี พล.ท.กิตติธัช   บุพศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. ,นายวีรวัฒน์  เต็งอำนวย รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด,  นายคมสัน  สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายภาสกร   ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

แม่ทัพน้อยที่ 3 /   ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย กล่าวว่า  พื้นที่อำเภออมก๋อยเคยเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกฝิ่นมากที่สุดในประเทศไทย แต่หลังจากที่มีการริเริ่มโครงการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่อมก๋อยในปี 2561-2565 โดยในช่วงปีแรกของโครงการสามารถลดพื้นที่ปลูกฝิ่นลงได้จาก 1 พันกว่าไร่เหลือเพียง 50 กว่าไร่และปีนี้ก็ลดลงมาเหลือประมาณ 26 ไร่ อย่างไรก็ตามก็คงต้องมีการเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนโอกาสที่จะมีการลักลอบปลูกฝิ่นก็ยังมีอยู่

“ในปีงบประมาณ 2562 พื้นที่อำเภออมก๋อยสามารถลดพื้นที่ปลูกฝิ่นได้ 65 หมู่บ้านคิดเป็นร้อยละ 90 ของหมู่บ้านเป้าหมาย พื้นที่ปลูกฝิ่นลดลงเหลือ 26.91 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 52.46 ของพื้นที่ลักลอบปลูกในปี 61 สำหรับการใช้มาตรการทางกฎหมายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับฝิ่น ยาเสพติด และปัญหาความมั่นคงสามารถดำเนินการได้ จำนวน 227 ราย คิดเป็นร้อยละ 90.80 จับกุมผู้ต้องหาได้ 160 ราย”พลโทสุภโชค กล่าวและชี้แจงอีกว่า

ในส่วนของการค้นหาผู้เสพและผู้ติดฝิ่นในปี 62 มีจำนวน 1,739 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 61 จำนวน 238 รายคิดเป็นร้อยละ 13.8 ทั้งนี้มีผู้ผ่านการบำบัด จำนวน 214 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 61 จำนวน 124 รายคิดเป็นร้อยละ 57.49 ของผู้ผ่านการบำบัด ซึ่งผู้ที่ผ่านการบำบัดได้รับการส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตจากหน่วยงานภาคี จำนวน 193 ราย

สำหรับแผนงานอำนวยการและบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนนั้น ได้ขับเคลื่อนโครงการปรับปรุงถนนวงแหวนเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เชื่อม 4 ตำบล อำเภออมก๋อย ระยะทาง 105 กิโลเมตรเศษ ในปี 2562 ได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 12 กิโลเมตร โดยใช้งบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำลังดำเนินการอีก 2 แผนงาน ใช้งบประมาณจาก สำนักงาน กปร. จำนวน 20 ล้านบาท ระยะทาง 14.7 กิโลเมตร และงบจากกรมทางหลวงชนบท จำนวน 23.9 ล้านบาท ระยะทาง 17.4 กิโลเมตร ซึ่งทั้ง 2 แผนงานกองทัพบกได้มอบให้กองทัพภาคที่ 3 โดย กองพลพัฒนาที่ 3 เป็นหน่วยงานดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมผิวจราจรของถนนวงแหวน ณ จุดวิกฤต ทั้งนี้หากโครงการปรับปรุงถนนวงแหวนเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เชื่อม 4 ตำบล ของอำเภออมก๋อยแล้วเสร็จ จะทำให้ราษฎรและเจ้าหน้าที่สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต

พลโทสุภโชค กล่าวอีกว่า จากการบูรณาการทุกหน่วยงานเข้าดำเนินการทั้ง 6 แผนงานที่ผ่านมาได้น้อมนำแนวทางพระราชทานของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาเป็นหลักในการดำเนินงานทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยในปี 2563 จะมุ่งเน้นการควบคุมพื้นที่ไม่ให้มีการปลูกฝิ่น อย่างต่อเนื่อง จริงจัง และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการบำบัดมากยิ่งขึ้นทั้งนี้ เพื่อมุ่งไปสู่ผลลัพธ์สุดท้ายคือ พื้นที่อำเภออมก๋อยปลอดฝิ่นและยาเสพติดราษฎรในพื้นที่มีความเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพและรายได้อย่างพอเพียง และปัญหาความมั่นคงในพื้นที่อำเภออมก๋อยหมดสิ้นไป.

You may also like

อบจ.เชียงใหม่ระดม108หน่วยงาน “รวมใจเป็นหนึ่ง”ฟื้นฟูทำความสะอาดเมืองตั้งเป้าเสร็จภายในเดือนต.ค.นี้ขณะที่”ทักษิณ”ให้ 1 ล้านสนับสนุนกิจกรรม

จำนวนผู้