แม่ทัพน้อยที่ 3 แถลงแผนการตัดทำลายไร่ฝิ่นปีงบประมาณ 2561 ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมลงพื้นที่ตัดทำลายไร่ฝิ่นร่วมกับรองเลขาธิการ ป.ป.ส. ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองพื้นที่ดอยสามหมื่น บ้านป่าโหล – บ้านสันป่าเกี๊ยะ ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง เผยภาพรวมฝิ่นปีนี้ลดลงกว่าร้อยละ 20 ผลจากสภาพอากาศที่แปรปรวน
ที่ห้องประชุมทองจัตุ กองกำลังผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พล.ท.ทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้ พล.ท.สมพงษ์ แจ้งจำรัส แม่ทัพน้อยที่ 3 และรองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมแถลงแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ประจำปีงบประมาณ 2561
โดยมี นายชลัยสิน โพธิเจริญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส., นางทิพาพร ทัศนภักดิ์ ผอ.สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด ( สพส. ),นายพรพัฒน์ สุวรรณภูมิ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 และพล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบภ.5, ฝ่ายปกครอง, สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 9 จังหวัดเข้าร่วมการประชุม เพื่อวางแผนอำนวยการ ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติงานหน่วยในโครงการกำจัดพืชเสพติด ระดับพื้นที่ของ กองทัพภาคที่ 3 และประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ประจำปีงบประมาณ 2561 ในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2560- เมษายน 2561
แม่ทัพน้อยที่ 3 และรองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจและการตัดทำลายไร่ฝิ่นในปีที่ผ่านมา พบว่าพื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นหนาแน่น ได้แก่ พื้นที่ท่าสองยาง – ปิตุคี อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอแม่ระมาด, อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก, พื้นที่แปเปอร์ – นาเกียน อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ห้วยน้ำเย็น – ทุ่งต้นงิ้ว อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก โดยเฉพาะในห้วงที่ผ่านมา พื้นที่เขตรอยต่อ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ กับอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก มีการลักลอบปลูกฝิ่นเพิ่มมากขึ้น สาเหตมาจากในพื้นที่อำเภออมก๋อย ได้มีการเข้าดำเนินงานในมาตรการต่างๆ ของภาครัฐจากหลายส่วน เพื่อลดปัญหาการลักลอบปลูกฝิ่นในพื้นที่ จึงทำให้ผู้ลักลอบปลูกฝิ่นได้ย้ายพื้นที่ลงมาลักลอบปลูกฝิ่นหนาแน่นทางตอนล่าง ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก
สำหรับผลการตัดทำลายไร่ฝิ่นงบประมาณ 2560 ตรวจพบพื้นที่เป้าหมายที่มีการลักลอบปลูกฝิ่น และได้จัดกำลังเข้าตัดทำลายไร่ฝิ่น จำนวน 21 พื้นที่ จากพื้นที่สำรวจพบ จำนวน 2,226 แปลง 1,769,.64 ไร่ พบเป้าหมายนอกแผน จำนวน 123 แปลง 72.70 ไร่ สามารถตัดทำลายได้รวมทั้งสิ้น 2,349 แปลง 1,842.34 ไร่
ด้านนายปรัชญา ทวีกุล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการส่วนสำรวจพืชเสพติด สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด กล่าวว่า สถานการณ์การปลูกฝิ่นในปีนี้มีการเปิดพื้นที่ลดลงกว่าปีที่แล้วเป็นจำนวนมาก โดยในบางพื้นที่เป็นแปลงเก่าของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่เขตอำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนพื้นที่เขตอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ มีการเปิดพื้นที่ใหม่เพื่อหลบเลี่ยงจากการสำรวจของเจ้าหน้าที่ โดยย้ายพื้นที่ปลูกเข้าไปในป่าลึก ส่วนในพื้นที่เขตจังหวัดตากมีการเปิดพื้นที่ลดลง ในการสำรวจทางอากาศช่วงที่ผ่านมามีอุปสรรคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย มีเมฆปกคลุมในช่วงต้นฤดูการปลูกฝิ่น ทำให้การสำรวจทางอากาศเป็นไปด้วยความยากลำบากและมีความเสี่ยงอันตรายสูง
สถานการณ์โดยรวมพื้นที่ปลูกฝิ่นปีนี้คาดว่าจะลดลงประมาณร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปี 2559/60 ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและมีฝนตกชุกรวมถึงความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ในการลาดตระเวนป้องปรามและตัดทำลายในพื้นที่ จากการสำรวจทางอากาศและภาคพื้นดินของสถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ในปีนี้ พบมีการเปิดพื้นที่เพื่อลักลอบปลูกฝิ่นโดยชาวเขา รวมพื้นที่ทั้งสิ้น จำนวน 137 แปลง พื้นที่ 100.32 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พ.ย. 2560) จังหวัดเชียงใหม่ 78 แปลง พื้นที่ 59.57 ไร่ จังหวัดตาก 59 แปลง พื้นที่ 40.75 ไร่
พื้นที่ปลูกฝิ่นในปีนี้เมื่อเทียบกับฤดูกาลปลูกฝิ่น ปี 2559-2560 ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่าพื้นที่ปลูกปีนี้ลดลงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้จากการประเมินราคาฝิ่นดิบในพื้นที่พบว่า มีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผลผลิตฝิ่นหลังจากการตัดฟันทำลาย: ผลผลิตที่รอดจากการตัดทำลายหรือถูกตัดทำลายไม่สมบูรณ์รวมถึงการตัดทำลาย
หลังจากผู้ปลูกเก็บเกี่ยวผลผลิตทำให้ผลผลิตฝิ่นดิบในพื้นที่มีจำนวนน้อย ส่งผลให้ฝิ่นดิบมีราคาสูง และจำนวนผู้เสพฝิ่นยังคงมีอยู่มาก: ในพื้นที่ปลูกฝิ่นหนาแน่นยังคงมีผู้เสพอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ติดต่อกับอำเภอแม่ระมาดและอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกฝิ่นหนาแน่นมากที่สุด มีราคาขายปลีกสูงถึงจ๊อยละ 168,000 บาท (มูละ 150 บาท) สาเหตุที่ทำให้ราคาสูงเนื่องจาก ผลผลิตฝิ่นในพื้นที่ที่รอดจากการตัดทำลายเหลือน้อยมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งช่วงปลายฤดูการปลูกฝิ่น ผู้เสพฝิ่นจึงต้องซื้อฝิ่นในพื้นที่จากพ่อค้าขายปลีก ทำให้พ่อค้าขายปลีกกำหนดราคาขายเองได้ตามต้องการ
ทั้งนี้ในช่วงบ่าย แม่ทัพน้อยที่ 3 และรองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 พร้อมนายชลัยสิน โพธิเจริญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส., นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการส่วนสำรวจพืชเสพติด สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตัดทำลายไร่ฝิ่นพื้นที่ดอยสามหมื่นบ้านป่าโหล – บ้านสันป่าเกี๊ยะ ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จำนวน 2 ไร่ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ชาวบ้านบ้านป่าโหลซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าลาหู่หรือมูเซอ ที่มาร่วมตัดทำลายไร่ฝิ่น จำนวน 50 ชุด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในพื้นที่.