ผวจ.เชียงใหม่ ชื่นชมตัวแทนองค์กรสื่อ และสื่อมวลชนอาวุโส ในเชียงใหม่ ร่วมเวทีระดมความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างความสามัคคีปรองดองของประเทศ ในเวทีที่ 5 ของจังหวัดเชียงใหม่
ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมในเวทีรับฟังความคิดเห็น เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2560 ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่กำหนดไว้ 6 ครั้ง โดยในครั้งที่ 5 โดยผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อหาแนวทางสร้างความสามัคคีปรองดองเป็นกลุ่มสื่อมวลชน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้เชิญตัวแทนองค์กรสื่อมวลชนในพื้นที่ นักข่าวอาวุโส สื่อหลักสังกัด ทั้ง โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ กว่า 40 คน ให้ความสนใจเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะในครั้งนี้
ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สื่อมวลชนถือเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการเสนอแนะความคิดเห็นที่หลากหลายมุมมอง จาก 10 ประเด็นที่กำหนด ได้แก่ ด้านการเมือง ด้านความเหลื่อมล้ำการครอบครองที่ดินทำกินของเกษตรกร และการบริหารจัดการน้ำ ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ด้านสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณสุข ด้านสื่อสารมวลชน ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการต่างประเทศ ด้านการป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่น ด้านการปฏิรูป และด้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งทุกประเด็น ตัวแทนสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ได้เสนอความเห็น และมีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างความสามัคคีปรองดองของประเทศชาติเป็นอย่างมาก
“โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการปฏิรูปสื่อมวลชนท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคม ในอนาคต การใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมในสังคม การจัดสรรทรัพยากรอย่างเสมอภาค และการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นในประเทศ เป็นต้นหน่วยงานเจ้าภาพจังหวัดเชียงใหม่จะได้รวบรวมข้อคิดเห็นต่างๆ รายงานให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในชาติ และรวบรวมข้อคิดเห็นจากการนำเสนอให้คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ตามลำดับต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งต่อไป เป็นครั้งสุดท้าย เวทีที่ 6 ของจังหวัดเชียงใหม่ ได้เชิญกลุ่มนักวิชาการและนักศึกษาเข้าร่วมเสนอความเห็น ในวันศุกร์ ที่ 17 มีนาคม 2560 เวลา 09.00 – 11.30 น. หลังจากนั้น จังหวัดเชียงใหม่จะได้รวบรวมข้อคิดเห็นต่างๆ รายงานให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในชาติและรวบรวมข้อคิดเห็นจากการนำเสนอให้คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองต่อไป.