รมช.คมนาคมเปิดการทดลองเดินรถโดยสารHOP&GO เชื่อมโยงโครงข่ายสาธารณะไปยัง 7 แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่

 รมช.คมนาคมเปิดการทดลองเดินรถโดยสารHOP&GO เชื่อมโยงโครงข่ายสาธารณะไปยัง 7 แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่

 รมช.คมนาคมเปิดการทดลองเดินรถโดยสารเชื่อมโยงโครงข่ายสาธารณะ รองรับการเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เชียงใหม่ 7 จุดหมายปลายทางสนองนโยบายรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว           ผู้บริหาร HOP&GO   เตรียมนำรถขนาด 8 เมตรและEV มาเสริม ทำให้การเดินทางมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 14 เม.ย.67 ที่ห้องวารีกุญชร เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและรับฟังการดำเนินงาน รถบัสนำเที่ยวเมืองเชียงใหม่ HOP&GO  และเป็นประธานในพิธีเปิดการทดลองเดินรถโดยสารเชื่อมโยงโครงข่ายสาธารณะรองรับการเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายจิรุตม์ ศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกและคณะผู้บริหารกรมการขนส่งทางบกร่วมคณะ โดยมีนายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ

นายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า  การทดลองเดินรถโดยสารเชื่อมโยงโครงข่ายสาธารณะ รองรับการเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเมื่อครั้งเดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อ 11 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีดำริให้ผลักดันการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและระบบรองรับการเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่,เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี,อุทยานหลวงราชพฤกษ์,น้ำตกห้วยแก้ว,สวนสัตว์เชียงใหม่,วัดพระธาตุดอยคำและโบราณสถานเวียงกุมกาม

นายกฤษฏิภาชย์ ทองคำคูณ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท กรีนแคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า HOP&GO ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้ผลักดันให้เกิดเส้นทางเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทั้ง 7 แห่ง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวได้มีระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงถึงกัน ซึ่งทำให้การเดินทางเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการท่องเที่ยวในรูปแบบ HOP ON HOP OFF ยังเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนได้ ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดและยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวยังได้มีโอกาสสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่อย่างแท้จริง

“เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยว ปัจจุบัน HOP&GO ได้นำระบบติดตามตำแหน่งรถทั้ง 4 เส้นทาง รูปแบบ “Live Map”มาให้บริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตำแหน่งปัจจุบันของรถผ่านมือถือแบบเรียลไทม์ และในเดือนพฤษภาคมจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารบนรถ และระบบตรวจสอบบัตรโดยสาร เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย”ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท กรีนแคปปิตอล กล่าวและว่า

นักท่องเที่ยวสามารถซื้อแพคเกจบัตรโดยสารได้ 3 ช่องทางคือที่เว็บไซต์ www.HOPandGo.co,หรือบนรถโดยสาร HOP&GO   และซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย ซึ่งปัจจุบัน HOP&GO   มีการเปิดให้บริการทั้งหมด 4 เส้นทางคือ HG1 สายสีชมพ฿ เส้นทางอ.แม่ริม ให้บริการในวันจันทร์ พุธ พฤหัสบดีและวันเสาร์ ,HG2 สายสีน้ำเงิน เส้นทางอ.แม่ออน ให้บริการวันอังคาร,ศุกร์และวันอาทิตย์,HG3 สายสีเขียว เส้นทางเวียงกุมกาม ให้บริการทุกวันและHG4 สายสีแดง เส้นทางรอบเมืองให้บริการทุกวัน

ส่วนทางด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง ทั้งมาด้วยรถไฟ รถโดยสารประจำทางหรือโดยทางเครื่องบินก็ต้องมองหารถขนส่งสาธารณะที่จะนำพานักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวตามจุดหมายต่างๆ ได้ดังนั้นการเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะจึงเป็นเรื่องสำคัญ HOP&GO   เป็นระบบนำร่องที่เป็นฟีดเดอร์นำผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวจากจุดหนึ่ง ไปยังจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเทียวตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งดูจากอัตรานักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบันพบว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศเกาหลีใต้และไต้หวันม่จำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงถือว่าเป็นการเปิดตลาดใหม่ เพราะขณะนี้ตลาดนักท่องเที่ยวจึนยังไม่ฟื้น เพราะฉะนั้นจึงเป็นการรองรับและสนองนโยบายของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น เพราะเชียงใหม่ก็เป็น 1 ในจังหวัดที่เป็นเป้าหมาย เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวด้วย

“HOP&GO   จะเป็นตัวที่มาเติมเต็มการบริการขนส่งสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยวที่นำนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญไปส่งในจุดใหญ่ต่างๆ แล้วมีรถขนส่งสาธารณะหรือรถเล็กประจำจังหวัดอย่างเช่นรถสี่ล้อแดงให้บริการนักท่องเที่ยวไปถึงจุดหมายปลายทาง โดยรถโดยสารสาธารณะ HOP&GO    จะออกทุก 1 ชั่วโมงนำพานักท่องเที่ยวไปยังจุดใหญ่ๆ ตามจุดต่างๆซึ่งเหมือนกับที่ต่างประเทศทำ เราจึงเอาโมเดลนี้มานำร่อง”นายสุรพงษ์ กล่าวและว่า

เมื่อโครงการนี้เกิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล แน่นอนที่รัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุน เพราะเป้าหมายของรัฐบาลคือการดึงการท่องเที่ยวให้กลับคืนมาเหมือนปี 2562 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 14 ล้านคนต่อปี โดยปัจจจุบันตัวเลขก็เริ่มจะใกล้เคียงแล้ว โดยรัฐบาลจะจัดอีเว้นท์ใหญ่ย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศและกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ ขณะเดียวกันในส่วนของผู้ประกอบการเองก็จะต้องทำการตลาดและประชาสัมพันธ์เรื่องระบบขนส่งสาธารณะที่มีไว้บริการด้วย โดยปัจจุบันการทำการตลาดมีทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เมื่อนักท่องเที่ยวเลือกจุดหมายปลายทาง และเห็นว่ามีระบบขนส่งสาธารณะรองรับก็สามารถวางแผนและบริหารการเดินทางท่องเที่ยวได้

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า สำหรับ HOP&GO    ไม่ใช่มีรถบริการที่มีขนาดใหญ่อย่างเดียว ทางผู้ประกอบการจะเสริมรถขนาด 8 เมตร รวมทั้งรถ EV มาให้บริการด้วย และในทุกๆ 6 เดือนก็จะมีการประเมินผลและปรับเส้นทางเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการคือนักท่องเที่ยวให้มากที่สุดเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการเดินทางท่องเที่ยวด้วย ที่สำคัญจะเน้นในเรื่องของความสะดวก และปลอดภัยเป็นสำคัญ.

 

You may also like

CEA – MUJI จับมือดันงานหัตถกรรมท้องถิ่นเชียงใหม่ ผลักดันผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ท้องถิ่นเข้าสู่ตลาดแบรนด์ระดับโลก

จำนวนผู้