บสย. ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เดินแผนกระตุ้น 18 ธนาคารพันธมิตร ปล่อยสินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อ วงเงิน 81,000 ล้านบาท หลังบรรลุข้อตกลงความร่วมมือ 3 ฝ่าย ระหว่างรัฐบาล -บสย.และ ธนาคาร ผลักดัน โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ มั่นใจ สร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 371,000 ล้านบาท
ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์เชียงใหม่ นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) แถลงข่าวและเปิดกิจกรรมกับธนาคารพันธมิตร”บสย.เร่งผลักดันโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน(PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ โดยกล่าวว่าตลอดเดือนกันยายนนี้ บสย.ได้วางแผนการทำตลาดเชิงรุกกับ 18 ธนาคารพันธมิตร เพื่อร่วมกันผลักดันยอดค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน 81,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ตามนโยบายรัฐบาล
โดยล่าสุดได้มอบหมายให้ ฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และฝ่ายกิจการสาขา ลงพื้นที่ 3 จังหวัดใหญ่ของประเทศ คือ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสงขลา เพื่อสร้างการรับรู้ ขับเคลื่อน และกระตุ้น 18 ธนาคารพันธมิตร ที่ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เร่งปล่อยสินเชื่อ และการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ ให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อมากที่สุด
ทั้งนี้แผนการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อ ประกอบด้วย การสัมมนาธนาคารพันธมิตร โดยมุ่งเน้นเนื้อหาประโยชน์ของโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขสำคัญที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายและประหยัดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี ในการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจสูง ด้วยกำลังการผลิต การต่อยอดขยายกิจการ ระดับเงินทุนหมุนเวียน รองรับการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวและโรงแรม ภาคบริการ ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง ภาคการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และภาคการเกษตร มั่นใจว่าโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ จะเป็นกลไกสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่ และภาพรวมของประเทศมากขึ้น โดยบสย.ได้เตรียมลงพื้นที่ในจังหวัดสงขลา ในวันที่ 22 กันยายน 2560
กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย.กล่าวว่า สำหรับโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ วงเงิน 81,000 ล้านบาท ผ่านความเห็นชอบตามมติครม.เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม และเริ่มดำเนินโครงการในวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมี 18 ธนาคารพันธมิตรร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) สาระสำคัญของโครงการคือ เป็นความร่วมมือจาก 3 ภาคส่วนคือ รัฐบาล บสย.และธนาคาร ร่วมกันผลักดันมาตรการความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs กล่าวคือ ทั้งรัฐบาลและธนาคารพันธมิตร ร่วมกันรับภาระจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนผู้ประกอบการ SMEs 4 ปีแรก (รวม7%) โดยตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไปผู้ประกอบการ SMEs เป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมในอัตรา 1.75% ต่อปีของวงเงินค้ำประกัน โดย บสย.ได้เพิ่มสัดส่วนการจ่ายค่าประกันชดเชยให้ธนาคารจาก 23.75% เป็น 30%
“มาตรการนี้จะส่งผลในเชิงเศรษฐกิจตลอดครึ่งปีหลัง สามารถช่วยให้ SMEs ได้รับสินเชื่อรวมกว่า 27,000 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินประมาณ 136,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มรวมประมาณ 108,000 คนและสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 371,000 ล้านบาท“ นายนิธิศกล่าว
สำหรับธนาคารพันธมิตรที่ร่วมโครงการ SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย,ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา,ธนาคารเกียรตินาคิน, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย,ธนาคารธนชาต,ธนาคารทหารไทย,ธนาคารทิสโก้,ธนาคารไทยพาณิชย,ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขยาดย่อมแห่งประเทศไทย, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร,ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย,ธนาคารยูโอบี,ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยและธนาคารออมสิน.