“ธรรมนัส”ยันรัฐบาลห่วงคนเหนือเผยกรมฝนหลวงฯจับมือกองทัพอากาศเปิดปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือประชาชน

“ธรรมนัส”ยันรัฐบาลห่วงคนเหนือเผยกรมฝนหลวงฯจับมือกองทัพอากาศเปิดปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือประชาชน

“ธรรมนัส”ขึ้นเชียงใหม่แจงกรมฝนหลวงฯ ร่วมกับเปิดปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บ และบรรเทาปัญหาไฟป่าฝุ่นควันช่วยเหลือพี่น้องประชาชนพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เผยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและเป็นห่วงสั่งผู้ว่าฯทุกจังหวัดป้องกันการเผา

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานจัดงานแถลงข่าวการปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บ ภายใต้ความร่วมมือกับกองทัพอากาศ ประจำปี 2564 พร้อมมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน  

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวว่า การปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บและการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่าภายใต้โครงการความร่วมมือกับกองทัพอากาศ ประจำปี 2564 และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุลูกเห็บ ได้จัดขึ้นเพื่อสานต่อพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันความรุนแรงจากการเกิดพายุลูกเห็บ ได้ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายแก่ประชาชนและพื้นที่ จึงถือเป็นภารกิจตามยุทธศาสตร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร

โดยในปี 2564 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้กำหนดให้จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจุดศูนย์กลางของภาคเหนือ ในการจัดทำโครงการการปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บและการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่าภายใต้โครงการความร่วมมือกับกองทัพอากาศ ประจำปี 2564 และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุลูกเห็บ โดยได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนซึ่งได้รับผลกระทบ และเกิดความเสียหายจากพายุลูกเห็บอยู่เป็นประจำ

นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในด้านต่าง ๆ อย่างเช่นการช่วยดับไฟป่า ด้านอุปโภคบริโภคน้ำเพื่อทำการเกษตร รวมถึงการเติมน้ำเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ที่มีปริมาณน้ำน้อยในขณะนี้ โดยได้น้อมนำศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงประดิษฐ์ภาพตำราฝนหลวงด้วยคอมพิวเตอร์แสดงขั้นตอน และกรรมวิธีการดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดฝนจากเมฆอุ่น และเมฆเย็น พระราชทานแก่นักวิชาการฝนหลวงถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน ในการแก้ไขปัญหาพายุลูกเห็บ และปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรและผู้ใช้น้ำทั่วทั้งประเทศ รวมถึงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศด้วย

ทางด้าน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปี 2564 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้กำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงบริเวณพื้นที่ปฏิบัติครอบคลุมพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ โดยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตก ใช้เครื่องบิน Super King Air 350 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จำนวน 2 ลำในการดำเนินการ

ส่วนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยได้รับความร่วมมือจากกองทัพอากาศในการสนับสนุนอากาศยานและบุคลากรในการดำเนินงาน ประกอบด้วยเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 หรืออัลฟ่าเจ็ท ซึ่งเป็นเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูงและมีความเร็วในการเข้าถึงเป้าหมาย ในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ ร่วมกันปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ โดยการใช้วิธีโจมตีด้วยพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ โดยการนำสารฝนหลวงซิลเวอร์ไอโอไดด์ เพื่อเร่งกระบวนการทางธรรมชาติ ทำให้ผลึกน้ำแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นเม็ดน้ำ โดยที่ผลึกน้ำแข็งจะละลายตกลงมาเป็นน้ำฝน ซึ่งจะช่วยบรรเทาความรุนแรงและความเสียหายอันเกิดจากพายุลูกเห็บลงได้ ทั้งนี้คาดหวังว่าจะสามารถบรรเทาและยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ ซึ่งสามารถทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรของประชาชนได้

นอกจากนี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังได้ปฏิบัติภารกิจบินสำรวจโดยเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 6 เที่ยวบิน (10 ชั่วโมง) ที่บริเวณพื้นที่ อ.แม่แจ่ม อ.เชียงดาว อ.กัลยานิวัฒนา อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ อ.ลี้ จ.ลำพูน และบริเวณรอยต่อเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ – ต.บ้านนา อ.สามเงา จ.ตาก – อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน และปฏิบัติภารกิจช่วยดับไฟป่าในอีกหลายพื้นที่

จากนั้นรมช.เกษตรฯได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานและชมอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติการฝนหลวงก่อนจะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 เป็นปัญหาที่รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างมาก และได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนแต่ละจังหวัดซึ่งได้รับนโยบายให้ป้องกันการเผาและการเกิดไฟป่า ในส่วนของกรมฝนหลวงเองก็ได้ใช้ฮ.ในการบินลาดตระเวนและยังช่วยดับไฟป่าด้วย ในส่วนของการทำฝนหลวงนั้นปัจจัยสำคัญคือเรื่องของสภาพอากาศถ้าหากมีความพร้อมทางเจ้าหน้าที่ก็จะขึ้นปฏบัติการทันที เพราะหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงได้เริ่มมาประจำและดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาซึ่งมีหลายพื้นที่ที่ขึ้นปฏิบัติการแล้วทำให้เกิดฝนได้.

You may also like

CEA – MUJI จับมือดันงานหัตถกรรมท้องถิ่นเชียงใหม่ ผลักดันผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ท้องถิ่นเข้าสู่ตลาดแบรนด์ระดับโลก

จำนวนผู้