ทีเส็บเผยตัวเลขขอรับสนับสนุนโครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า หลังผู้ประกอบการไมซ์ทั่วไทยให้ความสนใจขอรับการสนับสนุนเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 งาน พร้อมชวนคนเชียงใหม่จัดกิจกรรมไมซ์กระตุ้นเมืองรับการเปิดประเทศ ให้รายละเอียดการสนับสนุนจัดกิจกรรมไมซ์ในทุกมิติ ภายใต้มาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจัดงานปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
เมืื่อวันที่ 24 พ.ย.64 ที่่หอมุก ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน”ฟังเสียงเชียงใหม่ แทคทีม คน ไมซ์ เมือง”ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการหรือทีเส็บจัดขึ้น โดยกล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นไมซ์ซิตี้ที่มีการพัฒนาในระดับสูง สะท้อนให้เห็นจากการผ่านการประเมินมาตรฐานเมืองไมซ์ซิตี้ 8 ด้านครั้งล่าสุด โดยเชียงใหม่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุน ตลอดจนมีการพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกด้านการเดินทางธุรกิจและท่องเที่ยว หรือ Bleisure Destination ทั้งหมดนี้มาจากการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการพัฒนาเมืองอย่างมียุทธศาสตร์ร่วมกันมาโดยตลอด
“การที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ จัดงาน “ฟังเสียงเชียงใหม่ แทคทีม! คน ไมซ์ เมือง” และกิจกรรมสร้างการรับรู้โครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า ขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่น่ายินดี ที่ได้มาฟังเสียงคนเชียงใหม่ในหลายภาคส่วนร่วมกันคิด ค้นหาแนวทางความร่วมมือ และผลักดันให้กิจกรรมไมซ์ในจังหวัดเชียงใหม่บรรลุเป้าหมายเมืองร่วมกัน ขณะนี้ เชียงใหม่ ในฐานะเมืองนำร่อง 17 จังหวัดที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลให้เปิดพื้นที่รับระบบ test&go ในระยะแรก จังหวัดเชียงใหม่ได้ใช้แคมเปญ Charming Chiang Mai ในการกระตุ้นการเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และได้มีมาตรฐานด้านสุขอนามัยที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อย พร้อมรองรับการจัดงานประชุม สัมมนา แสดงสินค้าแบบ new normal แน่นอน”
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บมีแนวทางในการผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อให้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นตามนโยบายรัฐบาล โดยโครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์ โดยเฉพาะธุรกิจการจัดประชุมสัมมนา และการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้
“ในปีนี้ทีเส็บได้จัดสรรงบประมาณเพื่อให้การสนับสนุนจำนวน 20 ล้านบาท ให้การสนับสนุนงบประมาณ 15,000 บาทสำหรับการจัดกิจกรรม 1 วัน ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง และ 30,000 บาทสำหรับการจัดกิจกรรม 2 วัน 1 คืน ได้แก่ การประชุม การสัมมนา การอบรม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล กิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมศึกษาดูงาน หรือกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งในชุมชน และได้พัฒนาระบบการขอรับการสนับสนุนให้เป็นรูปแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบผ่านแพลตฟอร์ม ThaiMICEConnect.com ซึ่งเป็น e-MICE Marketplace ที่สมัครเข้าใช้บริการได้ง่าย ช่วยลดขั้นตอนต่างๆ ทำให้มีผู้ประกอบการไมซ์ให้ความสนใจขอรับการสนับสนุนเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันมีผู้ขอรับการสนับสนุนและอนุมัติแล้วรวม 813 งาน (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564) และแสดงความจำนงมากกว่า 1,000 งาน มีผู้เข้าร่วมงาน 43,530 คน มีมูลค่าการจัดงาน 63 ล้านบาท โดยมีจำนวนงานที่ได้รับการอนุมัติ 637 งาน กระตุ้นให้มีการจัดกิจกรรม 2,187 กิจกรรม เกิดมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมรวม 119 ล้านบาท และเกิดการจ้างงาน 966 คน (ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน – 30 กันยายน 2564) โดยในภาคเหนือมียอดการยื่นขอกว่า 200 งาน ก่อให้เกิดรายได้ในพื้นที่ 18.69 ล้านบาท สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในภาคเหนือกว่า 33.41 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าการประชุมสัมมนาในประเทศยังถือเป็นเครื่องมือสำคัญหลักในการกระตุ้นการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ”
ทั้งนี้ ภายในงาน “ฟังเสียงเชียงใหม่ แทคทีม! คน ไมซ์ เมือง” และกิจกรรมสร้างการรับรู้โครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทีเส็บยังได้แนะนำแคมเปญสนับสนุนการจัดกิจกรรมไมซ์ในรูปแบบต่างๆ ครบทุกมิติของอุตสาหกรรมไมซ์ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การจัดประชุมสัมมนา แต่ยังรวมไปถึงการประชุมนานาชาติ งานแสดงสินค้านานาชาติ งานเฟสติวัล และงานเมกะอีเวนต์เพื่อกระตุ้นกิจกรรมไมซ์ของจังหวัดเชียงใหม่ให้เติบโต ควบคู่ไปกับการพัฒนาต่อยอดให้มีความยั่งยืน ลดการพึ่งพารายได้จากต่างประเทศ และแม้ว่าขณะนี้หลายพื้นที่ผ่อนคลายเรื่องการจัดกิจกรรมรับนโยบายเปิดประเทศ แต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร หรือ COVID Free Setting ไม่ว่าจะเป็นการจัดประชุม สัมมนา เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 22.00 น. การจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมไม่เกิน 500 คน ให้ผู้เข้าร่วมสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา จัดให้มีช่วงเวลาพักเพื่อการระบายอากาศของห้องประชุม จัดเตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด และเว้นระยะห่างไม่ให้แออัด พร้อมทั้งดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติการจัดงานไมซ์อย่างเคร่งครัด
สามารถติดตามรายละเอียดโครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่าในเฟสต่อไป ได้ทาง www.thaimiceconnect.com, Facebook : Thai MICE Connect หรือ Line : @thaimiceconnect และสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 0 2793 3456 วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 17.30 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์