ผวจ.เชียงใหม่ – คปภ. นัดญาตินักปั่นจักยานเหยื่อเมาแล้วขับเข้าไกล่เกลี่ยประกันภัย

ผวจ.เชียงใหม่ – คปภ. นัดญาตินักปั่นจักยานเหยื่อเมาแล้วขับเข้าไกล่เกลี่ยประกันภัย

- in headline, จับกระแสสังคม

จ.เชียงใหม่ ( 6 พ.ค.58) / คปภ.เชียงใหม่ นัดญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถเก๋งชนนักปั่นจักรยาน เข้าไกล่เกลี่ยเพื่อรับเงินเยียวยาจากบริษัทประกันภัย ขณะที่ญาติยืนกรานให้คู่กรณีมาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายก่อน

จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ชนขบวนนักปั่นจักรยานของชมรมนักปั่นจักรยานสันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่  เป็นเหตุทำให้ผู้มีเสียชีวิต 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)จังหวัดเชียงใหม่  ได้มีการเชิญญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย ครอบครัวของนายสมาน กันธา ครอบครัวของนายพงษ์เทพ คำแก้ว และครอบครัวนายชัยรัตน์ ย่องลั่น เพื่อชี้แจง ทำความตกลง กับตัวแทนบริษัทมิตรแท้ประกันภัย (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยรถคู่กรณี  โดยมีนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นสักขีพยานในการไกล่เกลี่ย

นางสายขวัญ เกตุคำ ผู้อำนวยการสำนักงานคปภ. ชี้แจงกับครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า ผู้ก่อเหตุได้ทำประกันอุบัติภัย ชั้น 1 กับบริษัทมิตรแท้ประกันภัย ซึ่งญาติผู้เสียชีวิต จะได้รับค่าชดเชยตามกรมธรรม์  เงินประกันภาคสมัครใจ จำนวน500,000 บาทและ มีเงินเยียวยา ตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ อีก 200,000บาท รวม 700,000บาท ตามสัญญาประนีประนอมยอมความและจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายหรือดำเนินคดีความทางแพ่งใดๆได้อีก
ด้านนางกาญจนา ศรีครามผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงาน คปภ. ภาค1 อธิบายเพิ่มตามว่า เงินชดเชย ตามกรมธรรม์จะจ่ายชดเชยตามฐานานุรูป(สถานะของผู้เสียชีวิต) ซึ่งถ้าครอบครัวผู้เสียชีวิตยินยอม ก็จะรับเงินชดเชยรายละ 700,000 บาท แต่ถ้าไม่ยอมรับก็จะได้รับเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองฯ 200,000 บาท  ขึ้นอยู่กับครอบครัวผู้เสียชีวิตว่าจะยินดีรับหรือไม่

นายอรัญ ศรีว่องไทย ตัวแทนจากบริษัทมิตรแท้ประกันภัย กล่าวว่า หากครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่พอใจกับเงินช่วยเหลือที่ได้รับ จะได้รับเงินสินไหมทดแทนตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ 200,000 บาท  ส่วนเงินช่วยเหลือตามกรมธรรม์ ก็จะเป็นการดำเนินการตามกระบวนการในชั้นศาลต่อไป ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาตามฐานานุรูปของผู้เสียชีวิตแต่ละคน ซึ่งแตกต่างกัน และต้องใช้ระยะเวลาการพิจารณา ค่อนข้างนาน

ด้านนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขอให้แยกระหว่างคดีอาญากับเรื่องเงินคุ้มครองตามกฎหมายออกจากกัน  คดีอาญานั้นต้องดำเนินการกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องทางคดีแพ่งก็เป็นเรื่องทางศาลที่จะพิจาณาต่อไป ตามสภาพความแตกต่างของแต่ละครอบครัว ซึ่งแล้วแต่ละครอบครัวจะดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เห็นพ้องร่วมกันว่า ต้องการให้ทางญาติผู้ก่อเหตุมาร่วมเจรจารับผิดชอบค่าเสียหายทางทรัพย์สิน ส่วนเงินชดเชยนั้น จะขอรับเงินชดเชยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำนวน 200,000 บาท ในเบื้องต้นก่อน ส่วนเงินชดเชยตามภาคสมัครใจ อีก 500,000บาทนั้น จะขอนำไปพิจารณาอีกครั้ง หรือ ดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งเพิ่มเติมในชั้นศาล  ซึ่งก็แล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละครอบครัวต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

You may also like

CEA – MUJI จับมือดันงานหัตถกรรมท้องถิ่นเชียงใหม่ ผลักดันผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ท้องถิ่นเข้าสู่ตลาดแบรนด์ระดับโลก

จำนวนผู้