ประชาชนชาวเชียงใหม่ร่วมหมื่นคนร่วมกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก” เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและมีประชาชนมาให้กำลังใจและบริการน้ำดื่มตลอดเส้นทาง
วันที่ 9 ธ.ค.61 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พี่น้องประชาชน พสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งสิ้น 9161 คน ร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน “Bike อุ่นไอรัก” เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สำหรับเส้นทางปั่นจักรยานอุ่นไอรักของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้จัดรูปขบวนออกเป็นชุดๆ โดย T1-6จะปั่นโดยไม่หยุดพัก ขณะที่กลุ่มครอบครัวและหัวหน้าส่วนราชการจะปั่นจากศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาจังหวัดเชียงใหม่ ไปตามถนนคันคลองชลประทาน ผ่านสี่แยกต้นพะยอม และสี่แยกแม่เหียะ เลี้ยวเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ไปยังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จากนั้นจะปั่นไปตามเส้นทางมงคลทรงจักรยานภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ผ่านหอคำหลวง มายังวงเวียนอุทยานหลวงราชพฤกษ์ และย้อนกลับมายังจุดสิ้นสุดที่ศูนย์ประชุม รวมระยะทาง 27 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางจะมีจุดบริการน้ำ จุดพัก รวมทั้งจุดปฐมพยาบาลไว้พร้อมในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและมีประชาชนมาให้กำลังใจและบริการน้ำดื่มตลอดเส้นทางโดยกิจกรรมเสร็จสิ้นในเวลา 18.00 น.
นอกจากนี้ ยังได้จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติภายใต้ชื่องาน “กษัตริย์นักกีฬา” ซึ่งจะเป็นนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงเป็นแบบอย่างให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายและสนใจดูแลสุขภาพ ตลอดจน มีความรักความสามัคคี รวมทั้งนิทรรศการและกิจกรรมเกี่ยวกับสุขภาพมากมาย โดยจะจัดไปตลอดทั้งเดือนธันวาคม 2561 นี้ ที่ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญในการรักษาสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกาย และส่งเสริมความรักสามัคคีในครอบครัวและสังคมอีกด้วย
ทางด้านนายแพทย์ธรณี กายี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หน่วยปฐมพยาบาลสรุปรายงานผู้ป่วยและบาดเจ็บ รวม 11 ราย โดยแยกเป็นล้มแล้วปั่นต่อจำนวน 3 ราย เป็นลม 2 รายน ตะคริว 5 ราย ใจสั่น 1 ราย ส่งต่อมหาราช(มีสิทธ์ประกันสังคมมหาราช) โดยกิจกรรมในครั้งนี้ทางหน่วยปฐมพยาบาลใช้ทั้งจักรยานกู้ชีพ 20 คันมอเตอร์ไซค์กู้ชีพ 12 คันรถพยาบาลระดับสูง 10 คัน ใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจทั้งหมด ไม่รวมที่อยู่ในรถพยาบาล 17 ตัว ทีมกู้ชีพใช้ทั้งที่เป็นอาสาสมัครและในหน่วยสาธารณสุข ทั้งนี้มีนักปั่นได้รับการคัดกรองประมาณ 700 คน โดยพบมีเสี่ยงสูงประมาณ 50 คน และมี 1 คน ที่ทีมปฐมพยาบาลขอให้ไม่ปั่นเนื่องจากความดันสูงต่อเนื่องไม่ยอมลง และได้ติดป้ายข้อมือสีเหลืองในกลุ่มเฝ้าระวังสูงประมาณ 30 คน ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้ผลลัพธ์คือไม่มีผู้บาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต.