จีนเสนอให้รัฐบาลไทย MOU ร่วม 2 ประเทศใช้มาตรฐานเดียวกันในการออกใบอนุญาตขับขี่ หลังพบมีคนนำใบขับขี่ปลอมหลอกขายนักท่องเที่ยวจีนสูงถึงใบละ 3 หมื่นบาท

จีนเสนอให้รัฐบาลไทย MOU ร่วม 2 ประเทศใช้มาตรฐานเดียวกันในการออกใบอนุญาตขับขี่ หลังพบมีคนนำใบขับขี่ปลอมหลอกขายนักท่องเที่ยวจีนสูงถึงใบละ 3 หมื่นบาท

- in headline, อาเซียน +3

ผู้ตรวจการแผ่นดินถกปัญหาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว กงสุลใหญ่จีนเสนอให้รัฐบาลไทย MOU ร่วม 2 ประเทศใช้มาตรฐานเดียวกันในการออกใบอนุญาตขับขี่ หลังพบมีคนนำใบขับขี่ปลอมหลอกขายนักท่องเที่ยวจีนสูงถึงใบละ 3 หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2561 ที่ห้องประชุมสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจราชการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานการประชุมพิจารณารับทราบข้อเท็จจริงและแนวทางแก้ไขปัญหาของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ร่วมกับนายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ และนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ปลอมใบขับขี่ ขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนในราคาตั้งแต่ราคา 3,000-10,000 บาท

นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในประเทศจีนการทำใบขับขี่ถือว่าทำยาก และต้องเก่งจริงๆ รัฐบาลจีนจึงจะออกใบขับขี่ให้ ดังนั้นการที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และจังหวัดเชียงใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวปีละ 2 ล้านคน และในปีต่อไปคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นอีก 5 แสนคน และยังเชื่อมั่นอีกว่าทุกๆ ปีนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเพิ่มปีละ 5 แสนคนต่อเนื่องต่อไป ดังนั้นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้ประชาชนจีนได้รับทราบถึงการท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น รัฐบาลจีนได้ทำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประชาสัมพันธ์การเข้ามาใช้บริการต่างๆ ในประเทศไทย รวมถึงการใช้บริการรถเช่าชนิดต่างๆ ซึ่งมีการแจ้งเตือนอย่างเสมอต้น เสมอปลาย แจกแผ่นพับตามสถานที่สำคัญต่างๆ และที่สนามบินต่างๆ ทั่วประเทศจีนด้วย และผลการสำรวจนักท่องเที่ยวจีนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาพบว่า นักท่องเที่ยวจีนประสบอุบัติเหตุในประเทศไทยลดลงตามลำดับซึ่งถือว่าน่าประทับใจมาก

“แต่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ตนในฐานะรัฐบาลจีน ขอเสนอให้ทำ MOU ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนในการใช้มาตรฐานเดียวกันในการออกใบอนุญาตขับขี่ และใช้มาตรการจับกุมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยขอให้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศหารือและทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อสรุปต่อไป” กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว

ทางด้านพล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจราชการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า การเดินทางมาประชุมครั้งนี้ เพื่อมาดูแลความเรียบร้อยของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน จึงได้เชิญประชุมหารือทั้งตัวแทนรัฐบาลไทยกับตัวแทนรัฐบาลจีน เพื่อสรุปปัญหาและแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องภาษาการสื่อสารของ 2 ประเทศ  ดังนั้นการเรียนภาษาได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและขอความร่วมมือกับจิตอาสาที่เก่งด้านภาษาจีน จะเป็นอาสาสมัครก็ได้ ให้มาจัดการเรียน การสอนภาษาจีนให้พนักงานขนส่ง และสอนภาษในหน่วยงานต่างๆ ในอนาคตก็จะมีหลักสูตรสอบใบขับขี่ภาษาจีนด้วย

ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวอีกว่า เมื่อได้ทำ MOU ระหว่าง 2 รัฐบาลตามที่กงสุลใหญ่ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่เสนอมา เมื่อการทำใบขับขี่ไปในทิศทางเดียวกัน ในรูปแบบทวิภาคีแล้ว ก็จะเกิดกระบวนการที่ถูกต้องจะได้ไม่ทำผิดกฎหมาย จะไม่มีการแอบทำใบขับขี่ปลอมอีก รวมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการรถเช่าทำประกัน เมื่อให้ผู้เช่ารถที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะได้รับการคุ้มครองจากกรมธรรมประกันภัย และให้บริษัทประกันจ่ายค่าคุ้มครองประกันภัยให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวกลับประเทศไปแล้วก็ยังไม่ได้รับสินไหมทดแทน จึงเกิดปัญหากับนักท่องเที่ยวได้ อย่างไรก็ตามปัญหาทั้งหมด ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ รับไปประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหาทางแก้ไขร่วมกัน และที่สำคัญตนจะนำกรณีการทำ MOU ของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนเสนอให้รัฐบาลโดยเฉพาะกรมการขนส่งทางบกได้รับทราบเรื่องนี้และดำเนินการต่อไป

ขณะที่นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีเรื่องใบขับขี่ปลอมล่าสุดพบ 1 ราย เป็นอดีตพนักงานบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ตรวจสอบแล้วพบว่าได้ลาออกจากบริษัทไปแล้ว โดยทำขายใบละ 3,000 บาท และมีผู้ซื้อต่อนำไปขายให้นักท่องเที่ยวชาวจีนใบละ 20,000-30,000 บาท เรื่องนี้กำลังประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวอยู่ คาดว่าจะทำเป็นกระบวนการ

“การตรวจสอบถือว่ายาก หากไม่พบกระทำผิดจากคดีอื่นแล้วส่งมาให้ขนส่งตรวจประวัติจะไม่ทราบได้เลย แต่หากตรวจจากรายชื่อนายทะเบียนผู้ลงนามในพื้นที่แต่ละจังหวัดจะทราบได้ ดังนั้นหากไม่ใช้เจ้าหน้าที่ในขนส่งโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะถูกหลอกได้ง่าย จึงขอเตือนการทำใบขับขี่นั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อเจ้าตัวเดินทางมาทำเองที่ สำนักงานขนส่งด้วยตัวเองเท่านั้น เพราะต้องเข้าห้องอบรมและสอบข้อเขียน ทดสอบขับ และถ่ายภาพของตัวเอง และหากพบมีผู้กระทำผิดปลอมใบขับขี่มีโทษทั้งจำคุกและปรับ เป็นคดีอาญาถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง” ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่กล่าว.

You may also like

กฟผ.จับมือเซ็นทรัลฯเปิดพื้นที่กิจกรรมให้คนลำปางพร้อมอาหารนิทรรศการสร้างการเรียนรู้ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี

จำนวนผู้