ร่วมกิจกรรม FAM TRIP “แอ่วเมืองเหนือม่วนใจ๋” นำผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวเยี่ยมชมและสัมผัสบรรยกาศและแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 หวังให้เกิดการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง GMS
ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้กำหนดแนวนโยบายด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนตลาดท่องเที่ยวคุณภาพจากต่างประเทศ และภายในประเทศโดยใช้กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกในกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ซึ่งประกอบไปด้วยจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปางและแม่ฮ่องสอน มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีความพร้อมทั้งทางด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการท่องเที่ยว มีเส้นทางคมนาคมขนส่งที่เชื่อมโยงกัน มีแหล่งท่องเที่ยวและสินค้าท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและหลากหลายตามวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแต่ละแห่ง
เพื่อส่งเสริมการขยายตลาดการท่องเที่ยว และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้จัดกิจกรรม FAM TRIP “แอ่วเมืองเหนือม่วนใจ๋”เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง GMS ขึ้น เพื่อจัดทัศนศึกษาให้กับผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจากกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง อาทิ อินโดนีเซีย พม่า เวียดนาม มาเลเซียและลาว ในห้วงที่มีการจัดงาน Lanna Expo 2017 ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน-2 กรกฎาคม 2560 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ 7 รอบพระชนมพรรษา โดยนำกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไปทัศนศึกษาแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ระหว่างวันที่ 22-26 มิถุนายน 2560 ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมการขยายตลาดและการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 มากขึ้นแล้ว ยังส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ตามโปรแกรม FAM TRIP “แอ่วเมืองเหนือม่วนใจ๋”เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง GMS ครั้งนี้ มีการแข่งเส้นทางออกเป็น 2 คณะ คณะแรกวันแรกอยู่เชียงใหม่ และเราเลือกคณะที่ 2 ติดตามผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจากกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งมีทั้งไทย เวียดนาม กัมพูชาและ ลาว ไปสำรวจเส้นทางลำปาง,ลำพูนและเชียงใหม่
ไปถึงจุดนัดพบซึ่งเป็นโรงแรมที่พักของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่โรงแรมฮาโมไนซ์ บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-เชียงใหม่ขาเข้า ล้อหมุนในเวลา 8 โมงเช้ามุ่งหน้าไปจังหวัดลำปาง จุดแรกคือศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ที่อ.ห้างฉัตร แม้จะเคยมาหลายครั้งสำหรับสื่อมวลชนอย่างเรา แต่การเดินทางที่ได้มากับกลุ่มที่ยังไม่เคยมาสัมผัส นอกจากจะได้สัมผัสความตื่นเต้นแล้วยังรับรู้และสัมผัสถึงความรู้สึก ความประทับใจของผู้ที่ได้มาครั้งแรก แม้กระทั่งผู้ประกอบการนำเที่ยวจากไทยเองซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ภาคกลางไปถึงภาคใต้และยังไม่เคยทำทัวร์หรือเปิดตลาดท่องเที่ยวทางภาคเหนือตอนบน 1 มาก่อน
หลายคนตื่นเต้นกับช้าง ซึ่งช่วงเวลาที่ไปยังเป็นช่วงกำหนดการที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจัดกิจกรรม เช่น การให้อาหารช้าง นั่งช้างชมทิวทัศน์และการชมครวญอาบน้ำให้ช้าง ก่อนที่จะตามขบวนช้างไปดูการแสดง แต่คณะเราแยกไปฟังบรรยายในอาคารกัลยาณิวัฒนาซึ่งสร้างใหม่เป็นอาคารแสดงนิทรรศการ ซึ่งก็สะดวกและรวดเร็วสำหรับการบรรยายแม้ว่าในช่วงที่เดินทางไปยังจุดต่างๆ ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจะมีไกด์ที่พูดทั้ง 2 ภาษาคือภาษาไทยและภาษาอังกฤษอธิบายให้กับคณะฟังแล้วก็ตาม
จากศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเดินทางต่อไปที่อินทราเอ้าท์เลท ศูนย์จำหน่ายเซรามิก ลำปาง ที่นี่มีผลิตภัณฑ์ที่น่ารัก สวยงามเหมาะทั้งเป็นของฝาก ของที่ระลึกและอยู่ในเส้นทางที่ผู้ประกอบการนำเที่ยวสามารถบรรจุเข้าโปรแกรมนำเที่ยวได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทันเวลากับการเดินทางหรือไม่ จึงมีหลายคนหอบหิ้วของที่ระลึกออกจากเอ้าท์เลทนี้ ก่อนที่จะไปทานอาหารกลางวันในเมือง เพื่อที่ช่วงบ่ายคณะจะไปไหว้พระธาตุลำปางหลวง ที่อ.เกาะคา ด้วยระยะเวลาที่จำกัดทำให้หลายคนได้แต่มองรถม้าอย่างน่าเสียดายที่ไม่ได้นั่ง แต่ก็ไม่ยากหากผู้ประกอบการจะปรับเปลี่ยนตารางเวลาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสทั้งบรรยากาศ วิถีชีวิต วัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละแห่ง
ออกจากลำปางเกือบจะบ่ายสามโมง รถมุ่งหน้ากลับมาเยือนเมืองเจ้าแม่จามเทวี ให้คณะเข้ากราบนมัสการพระธาตุหริภุญชัย ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมการทอผ้าที่ลำพูนผ้าไหมไทย ของพิเชษฐ์ แก้ววรรณะ ครูช่างศิลปหัตถกรรมปี 2558 (ทอผ้าไหมยกดอก) ปิดท้ายทริปวันแรกด้วยถนนคนเดินวัวลาย ซึ่งก็สามารถดึงเงินจากผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวหลายๆ คนและมีเสียงเรียกร้องขอไปเดินช้อปปิ้งอีกวัน
นัดหมายวันถัดมาเราเลือกตามผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวไปเยี่ยมชมโรงแรม ส่วนอีกคณะไปเยี่ยมชมสปา และศูนย์ดูแลสุขภาพในจังหวัดเชียงใหม่ จุดแรกที่ไปคือโรงแรมระติล้านนา โรงแรมหรูติดแม่น้ำปิง ต่อด้วยโรงแรมฮอลิเดย์อินน์เชียงใหม่และปิดท้ายที่โรงแรมศิริปันนา เชียงใหม่ ส่วนภาคบ่ายเป็นโปรแกรมบิสสิเนทแมชชิ่งของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ในงานลานนาเอ๊กซ์โป 2017
นายเชิดศักดิ์ ดาวแก้ว กรรมการผู้จัดการบริษัท ออล อราวด์ เทรดดิ้ง& ฮอลิเดย์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการนำเที่ยวจากกรุงเทพฯ กล่าวว่า บริษัททำธุรกิจนำเที่ยวในกลุ่มประเทศสหรัฐอเมริกาและ อาเซียน โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ ซึ่งเคยมาดูสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 บ้าง แต่สำหรับกิจกรรมครั้งนี้รวมทั้งเส้นทางนำเที่ยวครั้งนี้ยังไม่เคยมาดู ก็รู้สึกว่าหลายจังหวัด หลายพื้นที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และก็ต้องการอยากจะเปิดเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวใหม่ๆ เพิ่มจากปกติที่ทำอยู่แล้ว
“แม้ว่าแต่ละแห่งที่ไปจะมีเวลาให้ไม่มาก แต่ก็สามารถเอาไปปรับเวลาได้ เพราะการมาเยี่ยมชมเป็นการดูสถานที่ แต่ถ้าจะจัดโปรแกรมให้นักท่องเที่ยวเราจะต้องเพิ่มกิจกรรมที่จะสามารถดึงให้เขามาอยู่ในเมืองไทยให้นานขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยทั้งยังเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน เพราะกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 มีจุดเด่นทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทางศิลปวัฒนธรรม โบราณสถานและประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองเชียงใหม่ มีวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีและผู้คนที่น่ารักซึ่งคิดว่าน่าจะเปิดตลาดฟิลิปปินส์กับสหรัฐฯได้เพิ่มมากขึ้น”กรรมการผู้จัดการบริษัท ออล อราวด์ เทรดดิ้ง& ฮอลิเดย์ กล่าวและว่า
มีหลายจุดที่ไปดูแล้วผมว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวชื่นชม อย่างนักท่องเที่ยวฟิลิปปินส์เองก็สนใจมาเรียนรู้การทำอาหาร ซึ่งปกตินักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมากุรงเทพฯ นครปฐม แล้วไปพัทยา เขาใหญ่ ต่อไปจะเพิ่มโปรแกรมให้มาเชียงใหม่แล้วบินออกไปเที่ยวพม่าหรือเชียงใหม่-กรุงเทพฯ-ลาวและกัมพูชา ซึ่งทำให้การท่องเที่ยวมันเชื่อมโยงกันในอนุภูมิภาคแห่งนี้.