ลุ้นยกฟ้องเวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร-ชี้คดีไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน

ลุ้นยกฟ้องเวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร-ชี้คดีไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน

- in headline, จับกระแสสังคม

เชียงใหม่/5 ผู้ต้องหา คดี3/2558 เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหารขอเลื่อนการสั่งฟ้องคดีต่ออัยการสูงสุด ลุ้นยกฟ้อง-เข้าเงื่อนไขคดีไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ย้ำหากฟ้องจะเป็นครั้งแรกในไทยที่ผู้จัดงานวิชาการถูกดำเนินคดีเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 มี.ค.61 กลุ่มผู้ถูกดำเนินคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 กรณีชูป้าย “เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร” ในงานประชุมวิชาการไทยศึกษานานาชาติ ครั้งที่ 13 ประกอบด้วย ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ ผอ.ศูนย์ภูมิภาคศึกษาด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) นางภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปล/นักเขียน นายชัยพงษ์ สำเนียง นักศึกษาปริญญาเอกคณะสังคมศาสตร์ มช. และนายนลธวัช มะชัย นักศึกษาปริญญาตรี คณะการสื่อสารมวลชน มช. พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางมารายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงเชียงใหม่ สำนักงานอัยการภาค 5 จ.เชียงใหม่ พร้อมกับยื่นหนังสือเรื่อง “ขอเลื่อนการสั่งฟ้องคดี” ต่ออัยการคดีศาลแขวงเชียงใหม่ จนกว่าอัยการสูงสุดจะได้พิจารณามีคำสั่งเป็นที่สุดทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อ 22 มี.ค.61 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 5 ได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดให้พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดี เนื่องจากคดีนี้เข้าเงื่อนไขไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะชน โดยกลุ่มผู้ต้องหามีกำหนดมาฟังผลการพิจารณาอีกครั้งใน 30 มี.ค.61 เวลา 09.00น. ที่ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงเชียงใหม่นายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความจากศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้นหมดแล้ว และอัยการภาคได้มีคำสั่งลงมาว่าเห็นควรสั่งฟ้อง โดยจะส่งฟ้องในวันที่ 30 มี.ค.61 แต่ทางกลุ่มได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมผ่านอธิบดีอัยการภาค 5 ให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนหรือไม่ เพราะคดีนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับกรณี MBK 39 ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน โดยจะทราบผลใน 30 มี.ค.นี้ ซึ่งถ้าอัยการยืนยันส่งฟ้อง ทางกลุ่มก็จะเดินทางไปที่ศาลแขวงเชียงใหม่ทันที ด้าน ดร.ชยันต์ เปิดเผยว่า วันนี้ทราบอย่างไม่เป็นทางการว่าคดีนี้อัยการส่งฟ้อง แต่จะมีการส่งฟ้องอย่างเป็นทางการใน 30 มี.ค.61 ซึ่งที่ผ่านมาทนายความได้ทำหนังสืออุทธรณ์ต่ออัยการสูงสุดไปแล้ว เพราะคดีนี้อาจเข้าเงื่อนไขไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน อย่างไรก็ตาม หากอัยการยืนยันจะส่งฟ้องก็ไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะตนเองมีเจตนาบริสุทธิ์ในการทำหน้าที่จัดประชุมทางวิชาการ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะผู้ร่วมกิจกรรมไม่พอใจ จนท.ทหาร และ จนท.ตำรวจ ที่เข้ามารบกวนพื้นที่ทางวิชาการ ฉะนั้นต้องแยก เป็น 2 ส่วนให้ชัดเจน และหากฟ้องคดีนี้ก็จะเป็นครั้งแรกในไทยที่ผู้จัดงานวิชาการถูกดำเนินคดี.

You may also like

เกษตรกร ชี้ซีพีเป็นรายเดียวเข้มนโยบายตรวจสอบย้อนกลับ ไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ และที่มาจากการเผา

จำนวนผู้